Powered By Blogger

วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Anniversaire


Un anniversaire est la date dans l'année à laquelle un évènement est survenu, habituellement une naissance.

Il est fréquent dans de nombreuses cultures de célébrer l'anniversaire de la naissance de ses proches (parents, amis) en organisant une fête et en offrant des cadeaux à la personne concernée. C'est également en général l'occasion ce jour-là de les choyer plus que d'accoutumée, comme de réaliser certains de leurs souhaits...

โคด-สะ-นา....ขายจินตนาการ‏





กว่าจะรู้ว่าทำไมเค้าถึงวัดนมเป็น Cup‏


The information contained in this e-mail may be confidential, proprietary and/or legally privileged. If you are not the intended recipient of this e-mail, please delete and destroy all copies immediately. Any review, dissemination, copy, retransmission, distribution or use of this e-mail in any form for an purpose is strictly prohibited. The sender accepts no responsibility for any miss transmission of or interference with this e-mail. Thank you.

modern toilet





วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

IceCream.. so cute





ทำอย่างไร ให้หายขี้อาย?

1. ถามตัวเองซะก่อนว่า เรานั้นขี้อายตรงไหน แล้วแก้ให้ถูกจุด


แบบอายเพราะไม่กล้าสบตาคนอื่น, อายเพราะไม่กล้าเดินเข้าไปทักคนอื่นก่อน, อายเพราะไม่กล้ายิ้มให้ใคร เพราะกลัวส่งยิ้มแล้วเค้าไม่ยิ้มตอบก็หน้าแตกสิว่ะ ถ้ารู้ตัวเองว่าคุณไม่กล้าทำอะไร เห็นทีต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งซะแล้วสิ อย่างถ้าอยากรู้จักใคร ก็ไม่ต้องอ้ำอึ้งทำเป็นไม่กล้าพูดไม่กล้าเข้าไปคุย แต่ควรเดินเข้าไปคุยกับเค้าเลยจ๊ะ ด้วยการแนะนำตัวคุณก่อนก็ดีว่าชื่ออะไร? แล้วค่อยถามเค้ากลับ เรื่องแค่นี้ไม่ควรจะเขินนานนะ การผูกมิตรน่ะง่ายกว่าการสร้างศัตรูซะอีกเชื่อดิ่


2. ฝึกด้วยการเป็นแม่สื่อหรือพ่อสื่อให้ เพื่อนดูก่อนก็ได้


บางคนงี้ ไม่กล้าไปเสวนาหรือเดินเข้าไปขายขนมจีบใครก่อนหรอก แต่ถ้าให้ช่วยเหลือเพื่อนเพื่อจีบใครล่ะก็ แหมถนัดนักล่ะ งั้นลองสวมบทบาทเป็นแม่สื่อ (หรือพ่อสื่อ) จับคู่เพื่อนที่มีใจให้กัน ให้ได้สักคู่นึงก่อนดิ่ ด้วยการสังเกตสังกาว่า มีเพื่อนคนไหนบ้างที่ "ส่งใจไปหากัน" แต่ทั้งคู่กลับไม่เคยแสดงออกในเรื่องนี้ให้รับรู้กันเลย อ่ะ งั้น...ฟ้าคงส่งให้เป็นหน้าที่ ของคุณซะแล้ว ที่จะช่วยให้พวกเค้าสมหวังกันสักที ทำเงี้ยะได้บุญด้วยนะ ไม่เชื่อลองส่งเสริมรักให้เพื่อนซี้ ดูก่อนก็ได้ แล้วจะรู้สึกดีจริงๆจ้า


3. ถ้าไม่มั่นใจในตัวเอง เห็นทีต้องฝึกท่องในใจซะแล้วว่า คุณทำได้สบายมาก


ความขี้อายมักเกิดมาจากความไม่มั่นใจในตัวเอง เช่น ไม่มั่นใจว่าถ้าแสดงพฤติกรรมอย่างงั้นอย่างงี้ออกมาแล้ว คนอื่นจะคิดยังไง? หากเป็นเช่นนี้ คุณควรลดความกลัว ที่ว่าคนอื่นจะคิดกับคุณอย่างไรออกไปบ้าง แล้วมุ่งเน้นความ สนใจไปที่ความรู้สึกของคนที่คุณชอบเค้าก็พอ เพราะถ้าขืนคิดถึงคนอื่นมากไป โอกาสที่คุณจะทำอะไรเพื่อตัวเองก็มีน้อยลงเท่านั้น


ดังนั้น ลองท่องประโยคที่ว่า คุณทำ...(อะไรก็ได้ที่อยากทำและเชื่อว่าทำแล้วคนที่คุณชอบจะชอบด้วย) ก็ทำเลย ไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนเก็บอาการอีกต่อไปแล้ว อย่าลืมสิว่า คุณทำได้!


4. อย่าคิดมาก


ถ้าอยากเอาชนะใจคนที่คุณเหล่ไว้ละก็ อย่าตีโพยตีพายคิดมากและคิดเองเออเองขึ้นมาก่อนเชียวว่า สงสัยคุณคงไม่กล้าไปพูดหรือเข้าไปเจรจากะเค้าแหงเลย เพราะถ้าคิดไปก่อนแบบนี้ ไอ้ที่ไม่กล้า ก็ยิ่งไม่กล้าอยู่นั่น ทางที่ดีอย่าคิดอะไรไปในทางร้ายๆก่อนแค่นี้พอ แล้วเดี๋ยวความกล้าก็มาเอง


5. หากิจกรรมส่งเสริมความกล้าทำมั่ง


เช่น กล้าที่จะไปเสนอรายงานหน้าชั้นเรียน, กล้าที่จะคุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่เพื่อน, กล้าที่จะทำกิจกรรมของโรงเรียนหรือที่ทำงาน และอื่นๆอีกเยอะแยะที่ช่วยฝึกฝนส่งเสริมให้เกิดความกล้าได้ ดังนั้น จึงอยากชวนให้ลองทำตามตัวอย่างที่ยกมาให้สักอย่าง เชื่อดิ่เดี๋ยวอาการขี้อายของคุณก็จะลดดีกรีลงไปเอง ในขณะที่ความกล้าจะเข้ามาแทนที่ เอ้า...เริ่มกล้าส่งตาหวานไปให้คนที่คุณชอบรึยังเอ่ย?


6. อย่ารุกหนักเกินไป


จริงอยู่ที่ใครหากมีความมั่นใจในตัวเอง รับรองเป็นสิ่งที่เลอเลิศประเสริฐศรีดีแน่นอน แต่ความมั่นใจในตัวเองควรอยู่ในระดับพอดิบพอดี (ทางสายกลาง) ไม่น้อยไปและไม่มากจนเว่อเหมือนนักร้องบางคนละกันนะ เพราะเวลาที่คุณอยากไปตีซี้กะ "คนที่หมายปอง" ควรค่อยๆ เดินหน้าเข้าหานะยะ ไม่ใช่บุ่มบ่ามส่งสายตาหื่นกระหายไปให้เค้า โอ้ยขืนเป็นงี้แล้วใครที่ไหนจะอยากคบด้วยล่ะ เนี่ยะไม่โดนคนที่คุณ ส่งสายตาแทะโลมตบสักเปรี้ยงก็ดีแค่ไหนแล้ว หัดเข้าหาเค้าอย่างสุภาพดีกว่าน่า


7. อย่ากลัวถูกปฏิเสธ


หากเป็นนักกีฬา คุณก็คงทำใจไว้ก่อนใช่ไหมว่า โอกาสที่คุณจะชนะหรือแพ้มีเท่าๆกัน 50-50 ซึ่งก็เหมือนในเกมของความรัก คุณคงไม่เข้าข้างตัวเองว่าคุณจะพิชิตใจ "คนที่หมายปอง" ไปซะทุกคนได้หรอกจริงมะ ฉะนั้น ถ้ากล้าที่จะเผชิญหน้ากับความรักแล้วละก็ จงระลึกเสมอว่า การที่คุณจะฉอเลาะเข้าไปจีบใครสักคน ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่วิเศษแล้ว แม้ผลลัพธ์ที่ตามมา เค้าจะรับรักคุณหรือไม่ อย่าไปหวั่นใจตรงนี้ให้มาก ถือว่าคุณได้ลองจีบเค้าอย่างดี ที่สุดแล้วก็พอ อีกหน่อยอาการมือไม้สั่น, ใจเต้นแรง และพูดตะกุกตะกักก็จะหายไปได้เอง แหละตัว ไม่เชื่อก็ลองดูซี.

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ตาเทียม



ผู้เชี่ยวชาญการทำลูกตาเทียมที่ทำจากกระจก ตรวจดูความเรียบร้อยของลูกตาเทียมที่ห้องทดลองในเมืองคัสเซล ฝั่งตะวันตกของเยอรมนี ลูกตาแต่ละดวงทำขึ้นมาเฉพาะเจาะจงกับการรักษาคนไข้แต่ละคน (ภาพ -เอเอฟพี)

น้ำแข็งทางแถบเดียวของอาร์กติกละลาย ดันน้ำทะเลล้นสูง5ม.


นักวิจัยฯ ออสซี่ ระบุ สาเหตุหลักมาจากแผ่นน้ำแข็งบริเวณนั้น ตามริมฝั่งของกรีนแลนด์ ทางแอนตาร์กติกาตะวันตกจมอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล จากภาวะที่มหาสมุทรอุ่นขึ้น...

ศูนย์วิจัยแอนตาร์กติก มหาวิทยาลัยวิกตอเรียของออสเตรเลีย กล่าวเตือนว่า หากว่าแผ่นน้ำแข็งทางบริเวณแถบตะวันตกของทวีปแอนตาร์กติกาซึ่งเป็นส่วนที่เปราะบางที่สุด พากันละลายหมด จะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกล้นสูงขึ้นอีก 5 เมตร รองผู้อำนวยการศูนย์ นายทิม นาอิช กล่าวว่า "แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกได้โตหนาขึ้น และได้ทะลายลงตลอดช่วงเวลา 5 ล้านปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง ทำให้ระดับน้ำทะเลแปรปรวนอย่างหนัก"จากหลักฐานแสดงว่า แผ่นน้ำแข็งบริเวณนั้น ตามริมฝั่งของกรีนแลนด์ ทางแอนตาร์กติกาตะวันตกจมอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล ดังนั้น เมื่อมหาสมุทรอุ่นขึ้น ก็จะทำให้แผ่นน้ำแข็งอุ่นขึ้นด้วย"

และบอกเสริมว่า "วิธีที่จะเข้าใจเรื่องนี้วิธีหนึ่ง ก็คือศึกษาสถิติของอากาศเมื่อสมัยยุคหิน ย้อนไปถึงยุคที่โลกยังอุ่นอยู่ เพื่อจะรู้ได้ว่าบริเวณแอนตาร์กติกาตะวันตกเป็นอย่างไร"

"เรารู้มาว่าก๊าซที่ทำให้โลกร้อนในบรรยากาศ มีปริมาณสูงกว่าในปัจจุบันอยู่เล็กน้อย และโลกก็ร้อนกว่า 2 หรือ 3 องศา เมื่อแผ่นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกาตะวันตกทลายลงหลายหน ระดับน้ำทะเลได้สูงขึ้นอีกถึง 10 เมตร"

เขาบอกสรุปว่า "ในอดีตความเปลี่ยนแปลงของสภาพลมฟ้าอากาศเกิดเป็นไปเองตามธรรมชาติ แต่สมัยนี้เรากลับไปผลักดันมันขึ้น ก๊าซที่ทำให้โลกร้อนถูกสะสมอยู่มากขึ้นและอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งกว่าแต่ก่อน".

จูบนั้นสำคัญอย่างไรหรอ


1. จูบช่วยป้องกันฟันผุได้เป็นอย่างดี เพราะตอนที่กำลังจูบนั้นต่อมน้ำลายจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ระดับของน้ำตาลและความเป็นกรดของน้ำลายลดลงสู่ภาวะปกติ ช่วยลดการเกิดพลัคได้

2. จูบเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการลดความเครียด เพราะตำแหน่งของปากในขณะที่จูบนั้น จะอยู่ในตำแหน่งใกล้จะยิ้ม ซึ่งในภาวะอย่างนี้จะพลอยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย

3. จูบยังช่วยลดความอ้วนด้วย! จูบจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้นาทีละ 1 แคลอรี่ หรือประมาณว่า ถ้าคุณจะลดน้ำหนักสักครึ่งกิโลกรัม ก็ต้องรวมเวลาจูบให้ได้สักสองวัน

4. จูบช่วยชะลอการเกิดรอยย่นบนใบหน้าได้ เพราะการจูบจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อให้เต่งตึง
ไม่เ(-ตู๊ด!-)่ยวย่นง่ายๆ จูบช่วยทำให้คุณฟิตขึ้นบอกมาว่าอย่างนั้นแล้วยังบอกอีกว่าการจูบทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนที่จะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และเพิ่มการสูบฉีดเลือด ดังนั้นร่างกายจึงฟิตมากขึ้น

5. จูบทำให้คุณนับถือตัวเองมากขึ้น เพราะเมื่อถูกจูบ คุณจะรู้สึกเป็นสุขและรู้ว่ามีใครสักคนต้องการคุณ และนั่นทำให้คุณรู้สึกดีๆ กับตัวเอง

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Fête Nationale.


Français Fête nationale avec les 14 jours de Juillet de chaque année. C'est un jour de la révolte de l'administration bureaucratique de l'administration dans la République. Par personnes à travers le pays à la révolte contre la domination d'une carte des précipitations de l'ancien triomphe de la première à envahir la ทลาย Cook Bastil comme un symbole de l'oppression sur les 209 personnes il ya des années et a conduit au renversement la monarchie absolue avec succès. L'assemblée nationale a déterminé la structure d'une nouvelle loi qui a la prérogative d'annuler. Éliminer la corruption et le système de rappel sur l'industrie, de Philadelphie (le féodalisme) et, plus tard, est le festival national «La Fête de la Fédération" comme un 1-anniversaire d'un événement que les forces de l'insurrection. Les voyageurs des quatre coins de la nation et les citoyens des pays à "Champs-de-Mars à Paris.

Mais après avoir assez de la célébration de se rappeler les événements de la journée, 14 juillet 2332 La nécessité de l'arrêter en raison de l'agitation à l'intérieur du pays continuent de se produire plusieurs fois dans la période de la guerre révolutionnaire. Dans la période 2335-2345 et "la Troisième République *» ce. Gouvernement a été l'idée de faire revivre la fête nationale française en Nouvelle - Le projet de loi adopté le 6 Juillet 2423 Loi sur la mise en place d'une date au 14 Juillet de chaque année comme "Journée nationale de France" et a organisé la première célébration de la même année.

La soirée débutera à 13 jours de la torche procession précédera le lendemain et quand la cloche de l'église sanctuaire, l'arme à feu ou un signal sonore qui indique que la fête a déjà commencé a. officiel De la bande de circulation de l'armée parade. Au moment de la journée, les gens vont célébrer avec une fête de danse joyeusement la route et de stationnement avec un défilé jusqu'à la tombée de la nuit. Ce qui est indispensable pour les citoyens de feux d'artifice et de jouer une pratique traditionnelle occupe encore aujourd'hui. Ont également créé plus de loisirs organisés dans tout le pays et de la gestion sportive. Exposition Exposition Sans les Français ignorent et ne pas penser à la célébration de dates importantes de la plus importante du pays.

สะอึก....เรื่องเล็กที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่


สะอึก…เป็นหนึ่งในสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้ใครหลายคน หากสะอึกแค่เดี๋ยวเดียว อาจไม่เป็นปัญหากวนใจนัก

แต่หากใครสะอึกติดต่อกันเป็นวัน หรือ หลายๆ วัน แม้หาสารพัดวิธีช่วยให้หายสะอึก ทั้งกลั้นหายใจ ดื่มน้ำ กลืนน้ำตาล ทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล นั่นอาจไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะอาการเช่นนี้อาจเป็นเพราะโรคได้! นพ.นรินทร์ อจละนันท์ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีช่วยไขข้อข้องใจให้หายสงสัยเกี่ยวกับการสะอึกว่า อาการสะอึกเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อกะบังลมที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างช่องปอดและช่องท้องที่เกิดขึ้นเองได้โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากมีสิ่งมากระตุ้นเส้น ประสาท 2 ตัว คือ Vagus nerve และ Phrenic nerve ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมระบบประสาทต่อกับระบบทางเดินอาหารส่วนต้น โดยเสียงสะอึกที่เกิดขึ้นมาจากการหายใจออกขณะที่กะบังลมเกิดการกระตุกทันทีทันใด ทำให้เกิดเสียงดังของการสะอึกขึ้น


สำหรับลักษณะอาการแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

1.อาการสะอึกช่วงสั้นๆ อาจเพียง 2-3 นาที
2.การสะอึกหลายๆ วันติดกัน
3.สะอึกติดๆ กันหลายสัปดาห์ และ
4.การสะอึกตลอดเวลา โดยที่การสะอึกกลุ่มแรกเป็นการสะอึกช่วงสั้นๆ ที่ไม่มีอันตรายใดๆ


แต่การสะอึกติดต่อกันหลายๆ วัน เป็นอาการที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากมีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ เช่นความผิดปกติทางสมองการเป็นอัมพาตการเป็นโรคทางเดินอาหาร

การอักเสบในช่องท้องบริเวณกะบังลม โรคหลอดเลือดสมองตีบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบพิษสุราเรื้อรัง รวมถึงอาการทางภาวะจิตใจ และผลกระทบจากการใช้ยาบางชนิด"ส่วนมากผู้ป่วยที่มาหาหมอด้วยการสะอึกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เนื่องมาจากมีอาการผิดปกติทางสอง หรือเป็นอัมพาต ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถให้ยาที่ช่วยบรรเทาอาการสะอึกได้ แต่ก็อาจมีการสะอึกเกิดขึ้นมาอีก เพราะอาการสะอึกเป็นเพราะต่อเนื่องที่เกิดจากการเจ็บป่วย"

นพ.นรินทร์อธิบายส่วนวิธีการรักษาบรรเทาอาการสะอึกนั้น

นพ.นรินทร์บอกว่า หากเป็นการสะอึกธรรมดาๆ สามารถใชวิธีการกลั้นหายใจ การกลืนน้ำตาล กระตุ้นบริเวณหลังคอ แต่หากสะอึกติดต่อกันควรที่จะพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการสะอึกว่าเกิดมาจากอาการของโรคใด โดยอาการสะอึกไม่ถือว่าเป็นโรคแต่เป็นผลมาจากการเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ดังนั้นหากสามารถทราบสาเหตุของโรคให้ยาตามอาการก็สามารถที่ช่วยให้อาการสะอึกดีขึ้น


10 เทคนิคหยุดสะอึก

1.กระตุ้นผิวด้านหลังของลำคอ แถวๆ บริเวณที่เปิดปิดหลอดลม โดยการดึงลิ้นแรงๆ
2.ใช้ด้ามช้อนเขี่ยที่ปิดเปิดหลอดลม
3.กลั้วน้ำในลำคอ
4.จิบน้ำเย็นจัด
5. กลืนน้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ หรือ กลืนก้อนข้าว ก้อนขนมปัง ก้อนน้ำแข็งเล็กๆ
6.ดื่มน้ำจากขอบแก้วที่อยู่ด้านนอกหรือด้านไกลจากริมฝีปาก
7.จิบน้ำส้มสายชูที่เปรี้ยวจัด หรือดมสารที่มีกลิ่นฉุน เช่น แอมโมเนีย
8.การฝังเข็ม
9. การสวดมนต์ทำสมาธิ
10. กลั้นหายใจเอาไว้โดยการนับ 1 – 10 แล้วหายใจออก จากนั้นดื่มน้ำตามทันที

> ครอบครัวพี่ถั่ว<









แป้งเด็ก สาเหตุมะเร็งรังไข่

แพทย์ฮาวาร์ดเตือนการทาแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้นเพื่อลดความอับชื้นเพียงสัปดาห์ละครั้ง เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ถึง 36 เปอร์เซ็นต์ และจะเพิ่มสูงถึง 41 เปอร์เซ็นต์หากใช้ทุกวัน

บทสรุปนี้ได้มาจากการที่คณะแพทย์ทำการทดลองกับผู้หญิงกว่า 3,000 คน โดยให้ทาแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น จากนั้นตรวจดูบริเวณรังไข่พบว่าเซลล์บริเวณนี้มีการขยายตัว เป็นปฏิกิริยาคล้ายการเกิดเซลล์มะเร็ง ซึ่งสมมติฐานของเหตุการณ์นี้คือเกิดจากทัลค์ (talc) หรือแร่ธาตุจำพวกซิลิเกตชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของแป้งและเครื่องสำอางนั่นเอง

แม้จะไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าผงแป้งเดินทางผ่านช่องคลอดไปถึงรังไข่ได้อย่างไร แต่ข้อมูลจากผู้ป่วยมะเร็งรังไข่ที่ยืนยันว่าใช้แป้งทาเพื่อความสบายตัวทุกวัน ก็ช่วยสนับสนุนผลการวิจัยนี้ได้อย่างดี

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไข้หวัด 2009


สถานการณ์ของไข้หวัดใหญ่2009ในขณะนี้ยังคงลุมลามไปทั่วโลก หลายประเทศเริ่มควบคุมไม่ได้ จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจไม่มากและเชื้อไม่ร้ายแรงเท่า โรคซารส์ หรือ ไข้หวัดนก แต่ ไข้หวัด2009 ก็มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ง่ายกว่า

ไข้หวัด2009 มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า A/H1N1 เป็นเชื้อไข้หวัดหมูพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ตัวใหม่ ที่ไม่เคยพบมาก่อน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม โดยเชื้อไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู และไข้หวัดใหญ่ อาจเข้าไปอยู่ในตัวหมูที่เป็นพาหะนำโรค ต่อมาเซลล์ในตัวหมูถูกเชื้อไวรัส2ชนิดโจมตี ทำให้หน่วยพันธุกรรมปนเปกันระหว่างการแบ่งตัว จนเกิดเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา

ทั้งนี้ ตามปกติจะติดจากคนที่สัมผัสหมูโดยตรงเท่านั้น แต่ไม่ติดต่อผ่านการบริโภคผลิตภัณฑ์จากหมู่ ทว่า เชื้อไวรัสตัวนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ผ่านการไอ จาม รวมถึงการสัมผัสจากสิ่งของที่ใช้ร่วมกันคล้ายกับการแพร่เชื้อของไข้หวัดธรรมดา

อนึ่ง ไวรัสไขหวัดหมูสายพันธุ์ใหม่ในปัจจุบันมีลักษณะทางพันธุกรรมและยีนแตกต่างจากไวรัสไข้หวัดหมูในอดีต เพราะมีองค์ประกอบของเชื้อไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์รวมอยู่ด้วยกัน 1.เชื้อไข้หวัดนกในทวีปอเมริกาเหนือ 2.เชื้อไข้หวัดใหญ่ในคน 3.เชื้อไข้หวัดหมูในยุโรปและเอเชีย

เหนื่อยมั้ยน๊า ถ่ายรูปท่าแบบนี้ "แอ๊บแบ๊ว แก้มป่อง"






เราเรียกท่าแบบนี้ว่า แอบแบ๊ว หรือ แอ๊บแบ๊ว ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นสมัยนี้
จะทำได้น่ารักนั้น ปัจจัยหลักแน่ๆ คือ ต้องแก้มป่อง ตาโต น่าตาน่ารัก ขาวๆ
แต่ว่า... สมัยนี้แล้ว เรามีผู้ช่วยมือโปร นั่นคื้ออออ PhotoShop อ่ะซีค้า

ตาไม่โต เก๊าะใส่ บิ๊กอาย เข้าไป
ผิวไม่ขาว ก็ปรับสีให้ขาวๆ นวลได้
แ้ก้มไม่แดงระเหรื่อ เราก็เอาบลัชออนสีสวยๆ มาแป่ะๆ ใส่สีสวยๆ ใน photoshop อีกที
ปากก็ทำให้มีมิติ อวบอิ่มได้เช่นกัน
ถ้าใส่เหล็กดัดฟันด้วย จะเพิ่มความน่าร๊ากก เข้าไปอีก

เฮ้อออ ภาษาวิบัติไปเลยกระทู้นี้

เรามาดุกันว่า ท่าแอ๊บแบ๊วที่น้องๆ คุ้นเคยนั้น เมื่อดูไปนานๆ เราจะรู้สึกเมื่อยปาก เมื่อแก้มไป ไม่รู้ทำไม

(สงสัย แอบทำตามน้องเค้าอ่ะซี้ ใช่ม้า)

Gâteau






Un gâteau est une pâtisserie réalisée par une pâte de base employée seule ou agrémentée de crème, de fruits. Un gâteau se mange généralement à la fin du repas, au dessert.

En Suisse romande, un gâteau est aussi appelé une « tourte ».

Il y a beaucoup de sortes de gâteaux. Le gâteau au chocolat est populaire en France.

การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ-การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ

การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ

- หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
- หากต้องดูแลผู้ป่วย ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อดูแลเสร็จ ควรรีบล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดทันที
- ไม่ใช้แก้วน้ำ หลอดดูดน้ำ ช้อนอาหาร ผ้าเช็ดมือ ผ้าเช็ดหน้าร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
- ใช้ช้อนกลางทุกครั้ง เมื่อรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังไอ จาม
- รักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมทั้งไข่ นม ผัก และผลไม้ ดื่มน้ำสะอาดและนอนหลับพักผ่อนให้พอเพียง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงบุหรี่และสุรา

การป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อ

- หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ควรลาหยุดงาน หยุดเรียน เป็นเวลา 3 – 7 วัน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้มาก
- พยายามหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดคลุกคลีกับคนอื่น ๆ
- สวมหน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัยทั่วไปใช้ในผู้ป่วย ที่มีอาการไอหรือจาม เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อได้ ส่วนบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานกับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รุนแรง ควรใช้หน้ากากอนามัยชนิดพิเศษ ตามข้อแนะนำทางการแพทย์

Coca-Cola


Le Coca-Cola (Coke en Amérique du Nord et dans certains pays européens) est une marque commerciale déposée en 1887 d'un soda (boisson gazeuse sucrée), née aux États-Unis. Le Coca-Cola est un des symboles forts des États-Unis dans le monde depuis la fin de la Seconde Guerre mondiale.

Il tire son nom de sa première composition : la feuille de coca et l'utilisation de noix de kola, la boisson était alors vendue par son inventeur le pharmacien John Pemberton, comme remède miracle (elle n'était pas encore dans la mythique bouteille dont la forme elle-même a été déposée en 1960).

Aujourd'hui, 307 millions de litres de Coca-Cola sont bus chaque jour dans le monde.[réf. nécessaire]

Ses principaux concurrents sur le marché mondial sont les sodas au cola des multi-nationales Pepsi-Cola et dans une moindre mesure Dr Pepper et Virgin Cola. Il existe de nombreux autres concurrents locaux selon les pays ou en produits libres dans les chaines de supermarchés, hypermarchés et superettes. D'autres colas sont fabriqués sur la base de la recette OpenCola, sous licence GPL. On trouve aussi des altercolas.

10 ข้อควรปฏิบัติในการถนอมสายตาหน้าจอคอมฯ

อย่างที่เรารู้กันนะคะว่า "ดวงตา" เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวในการใช้ชีวิตประจำวัน ยิ่งเดี๋ยวนี้ในยุคที่ทุกอย่างออนไลน์อยู่ในอินเตอร์เน็ต เราก็ยิ่งต้องใช้คอมพิวเตอร์กันมากขึ้น แน่นอนล่ะครับอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น "ดวงตา" ...

เมื่อเราต้องใช้คอมพิวเตอร์อยู่ทุกวัน เพื่อเป็นการถนอมสายตาของเรา ก็มี 10ข้อปฏิบัติในการถนอมสายตาหน้าจอคอมพิวเตอร์ มาฝากกันค่ะ


1. ควรเลือกจอคอมพิวเตอร์ที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา เราสามารถทดสอบง่าย ๆ ได้โดยลองปิดสวิตซ์จอภาพ แล้วเอามือหรือแขนไปจ่อไว้ใกล้ ๆ จอาภาพ จอที่มีการกระจายรังสีต่ำจะแทบไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตตามขนที่ผิว คือไม่รู้สึกขนลุก


2. ปรับแสงและความคมชัดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา รวมไปถึงปรับความสว่างในที่ทำงาน ลดแสงสะท้อนรบกวน เพราะดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อดวงตาได้ง่ายและรวดเร็ว จะรู้สึกว่ามีอาการปวดร้าวดวงตาเร็วและแสบตารุนแรงมากขึ้น


3. ตำแหน่งของจอภาพควรห่างจากดวงตาประมาณ 18 – 24 นิ้ว (วัดง่าย ๆ ประมาณหนึ่งช่วงแขนและปรับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15 – 20 องศาค่ะ) ถ้าระยะห่าวของจอภาพกับดวงตาไม่สัมพันธ์กันจะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย


4. ใช้แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อาจจะช่วยได้ไม่มาก(ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า) แต่ก็น่าจะช่วยลดแสงจ้าจากจอคอมพิวเตอร์ลงได้


5. ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ ที่ต้องทำก็เพราะฝุ่นจะทำให้เกิดการสะท้อนของแสงมากขึ้น



6. หยุดพักหรือเปลี่ยนตารางเวลาทำงานใหม่ เพื่อให้สายตาได้พัก 15 นาที ทุก ๆ 2 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย


7. ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ วางไว้บนเปลือกตา และหลับตาพักซัก 2 – 3 นาที หรืออาจจะปิดไฟนอนพักซักครู่ (วิธีนี้พี่เหมี่ยวว่าใช้ที่บ้านน่าจะเหมาะที่สุดนะคะ)


8. ผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์อาจจะเกิดอาการตาแห้งเพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยง การหยอดน้ำตาเทียมจะช่วยได้


9. ควรกระพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ ภายใน 10 วินาที พยายามกระพริบตาซัก 1 – 2 ครั้ง จะช่วยคลายความอ่อนล้าของสายตาได้


10. ตรวจสุขภาพตาบ่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่คอนแท็กเลนส์ และผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป ควรไปตรวจเช็คสุขภาพดวงตาด้วยนะคะ

พูดภาษาอังกฤษในนิวยอร์ค


ในมหานครนิวยอร์คแห่งนี้ตั้งแต่ Broadway ไป Times Square จนเลยไปถึง Central Park รับรองว่ามีอะไรน่าสนใจให้ทำและให้ดูมากมาย ! แต่ก่อนที่คุณจะไปเที่ยวเมืองที่ไม่เคยหลับแห่งนี้ มาทำความคุ้นเคยกับคำสแลงแบบนิวยอร์คก่อนดีกว่า !

The Big Apple
นี่เป็นแอ๊ปเปิ้ลลูกหนึ่งที่กินไม่ได้ ! ความหมายของ The Big Apple นี้ก็คือตัวมหานครนิวยอร์คนั่น ก่อนเดินทางไปที่นั่น คุณสามารถบอกกล่าวกับเพื่อนๆ ว่า "I'm going to the Big Apple!"

Stand on line
ขณะที่ชาวอเมริกันโดยทั่วไปจะพูดว่า stand in line ชาวนิวยอร์คใช้ stand on line แทน ถ้าคุณอยากทำตัวกลมกลืนไปกับคนท้องถิ่นในเมืองนิวยอร์คล่ะก็ พูดให้เหมือนเขาก็แล้วกัน !

Hero
เมื่ออยู่ในเมืองนิวยอร์ค คุณควรไปร้านอาหารและสั่ง hero มาลองทานดู อย่าห่วงเลย รับรองว่าพนักงานเสิร์ฟจะไม่มองว่าคุณบ้าพิลึกมาจากไหนหรอก แค่อย่าหวังว่าชายผู้หาญกล้าน่าทึ่งจะถูกนำมาส่งให้โต๊ะคุณก็แล้วกัน คำว่า hero ในที่นี้หมายถึงชื่อที่ชาวนิวยอร์คใช้เรียกซับมารีนแซนด์วิชแบบอิตาเลียนนั่นเอง

Do me a solid
ถ้ามีใครถามคุณว่า Hey can you do me a solid? ถามให้รู้เรื่องเสียก่อนว่ามันเรื่องอะไรก่อนไปตกปากรับคำกับเขา ! เพราะประโยคนี้หมายถึงเขาขอให้คุณช่วยอะไรเขาหน่อยนั่นเอง

Out in left field
เปล่า นี่ไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นเบสบอลในตำแหน่งสนามด้านซ้ายหรอก คุณสามารถพูดได้ว่าใครบางคน out in left field ถ้าคุณคิดว่าคนๆ นั้นพิลึกหรือประหลาด เช่น "Look at that strange guy! He's really out in left field!"

All right already!
วลีนี้ใช้เมื่อรู้สึกหงุดหงิดละเหี่ยใจ เป็นวิธีพูดอีกอย่างของประโยค "That's enough! Stop it!" อย่างเช่น "All right already! I'll do you a solid. Just stop bothering me!"

Carded
เปล่าหรอก นี่ไม่ได้หมายความว่าใครให้การ์ดอวยพรวันเกิดแก่คุณหรอก คนที่อายุต่ำกว่า 21 ปีที่แอบไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์มักกังวลว่าจะถูก carded - หรือถูกขอให้แสดงบัตรประจำตัวเพื่อยืนยันว่ามีอายุอย่างน้อย 21 ปี (ในสหรัฐฯ ถ้าคุณอายุ 21 ปีขึ้นไป คุณสามารถดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย)

Fuhhgeddaboutit
นี่ป็นการออกเสียง "Forget about it!" แบบชาวนิวยอร์ค ซึ่งหมายถึง "No way!" นั่นเอง เช่น "You want me to do you a solid? Fuhhgeddaboutit!"

Don't jerk my chain
ในฐานะนักท่องเที่ยว ถ้าคุณรู้สึกว่าใครบางคนกำลังพยายามโกงหรือหลอกต้มคุณก็พูดไปเลยว่า Don't jerk my chain! ซึ่งหมายถึงไม่ต้องมาพยายามโกงฉันหน่อยเลยน่า ไม่สำเร็จหรอก !

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

วิธีป้องกันสิว

สิวเป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยที่สุด มีลักษณะครบคำจำกัดความของคำว่า " โรค" จึงไม่ได้จัดเป็นแค่ปัญหาความงามแต่เพียงอย่างเดียว นอกจากนั้นสิวยังมีหลายรูปแบบ ซึ่งจะมีการรักษาที่อาจแตกต่างกันออกไป จึงต้องอาศัยการวินิจฉัยที่ถูกต้องจากแพทย์บริเวณที่สิวชื่นชอบมากเป็นพิเศษก็คือ ใบหน้า หน้าอก และหลัง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก โดยสิวสามารถเกิดได้จากหลายๆสาเหตุด้วยกัน ชนิดของสิว แบ่งเป็น 1.สิวไม่อักเสบ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน (Comedones) แบ่งเป็น 2 ชนิด 1.1 สิวหัวปิด (whiteheads หรือclose comedones) มักจะเห็นเป็นตุ่มเล็ก ๆ หัวขาว ๆ 1.2 สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (blackheads หรือ open comedones) 2.สิวอักเสบ คือสิวที่หัวแดง ๆ หรือ เป็นหนอง ซึ่งพวกนี้ก็คือ comedone ที่มีการติดเชื้อBacteria แทรกซ้อน นอกจากนั้นยังมีโรคสิวแบบแปลก ๆ ที่ระบาดในคนไทยขณะนี้ เช่น สิวแกะเกาซึ่งแต่เดิมพบมากในวัยรุ่นซึ่งรักสวยรักงามมาก มีอาการมือซ้ายถือกระจก มือขวาบีบแกะสิว ทำให้เกิดแผลเป็นมากมาย โรคสิวประเภทนี้จะมีความผิดปกติทางจิตใจ คือเป็นพวกย้ำคิดย้ำทำและมีสภาพจิตซึมเศร้าต้องได้รับการรักษาท างจิตร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย ขณะนี้พบสิวแกะเกาในวัยรุ่นไทยมากขึ้น , สิวเสียดสี พบบริเวณหลังและผิวหนัง ส่วนที่สัมผัสเสียดสีมาก ๆ เช่น นอนเล่น เครื่องยกน้ำหนัก

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว มีดังนี้
1.1พันธุกรรม(genetic) อาจจะมีประวัติการเป็นสิวในครอบครัว
1.2ฮอร์โมนเพศ ได้แก่ ฮอร์โมน Androgen ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย มีฤทธิ์กระตุ้นให้ต่อมไขมัน(sebaceous gland) ให้มีสร้างไขมันบนผิวหนัง(sebum)เพิ่มขึ้นตามวัยดังนี้
1.2.1 ต่อมไขมันเริ่มสร้าง sebum เมื่ออายุ 3 เดือนและลดการสร้างจนวัดระดับ sebum ไม่ได้เมื่ออายุ 6 เดือน
1.2.2 เริ่มสร้าง sebumใหม่เมื่ออายุ 7-8 ปีและเพิ่มจนมากที่สุดเมื่ออายุ 16-20 ปี ระดับsebumคงที่ และจะลดลงเมื่ออายุ 40 ปี ในผู้หญิง เมื่ออายุ 50 ปีในผู้ชาย
1.2.3 ยิ่งมีการสร้าง sebum มากก็ยิ่งมีการสร้าง comedone มากก็เกิดสิวตามมา คนเป็นสิวส่วนใหญ่มีระดับฮอร์โมนเพศปกติ
1.3 เชื้อแบคทีเรีย Proprionebacterium acne ที่อยู่ในรูขุมขน ซึ่งจะย่อยสลายไขมันทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและเกิดการอัก เสบขึ้น
1.4 Hormone เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะในผู้หญิง ตัวอย่างเช่น ในภาวะก่อนมีประจำเดือน หรือขณะตั้งครรภ์ จะมีสิวเพิ่มขึ้น หรือ เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่นต่อมไขมันจะมีขนาดโตขึ้นและผลิตไขมันมา กขึ้น
1.5 ความเครียด ท้องผูก เนื่องจากความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันหลั่งไขมันออกมามากขึ้น
1.6 ปัจจัยแวดล้อม เช่น การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของลาโนลินและขี้ผึ้ง การล้างหน้าด้วยสบู่บ่อยๆ หรือการใช้ยาสเตียรอยด์ วิตามินบางชนิด ยาทาฝ้า สารก่อฟองในสบู่ล้างหน้าหรือแชมพูบางชนิด การสัมผัสสารคลอรีน น้ำมัน ไฮโดรคาร์บอน บางคนอาจแพ้สารเคมีบางชนิดในน้ำมันแต่งผม หรือยาย้อมผม การรับประทานยาบางประเภท เช่น ฮอร์โมน , ยาคุม เป็นต้น
1.7 การนอนดึกทำให้สิวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสิวอักเสบ อาจเป็นเพราะ
1.7.1.ร่างกายอ่อนแอ เชื้อ Becteria ในสิว ทำให้มีการอักเสบมากขึ้น
1.7.2.Hormone เปลี่ยนแปลง 1.8 การล้างหน้าบ่อยๆ อาจเกิดการระคายเคืองทำให้เป็นสิวได้วิธีป้องกันสิว สิวเป็นเรื่องธรรมชาติการหลีกเลี่ยงสิวจึงเป็นไปได้ยากแต่ถ้าสา มารถหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวกำเริบ โอกาสเป็นสิวก็จะลดน้อยลง
วิธีปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดสิว มีดังนี้
1. รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอเพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรงๆ

ซูชิ



ซูชิ (「寿司」, sushi, – และมีการเขียนหลายแบบ ได้แก่ すし、鮨、鮓、寿斗、寿し、壽司?)
หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ (寿司飯, ข้าวที่ผสมน้ำส้มสายชู) และมีหน้าแบบต่างๆเป็นหน้า ที่นิยมได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบ หรือ เนื้อที่ผ่านกระบวนการทำอาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น

ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น

"ซูชิ" นิยมหมายถึง นิงิริซูชิ ที่เป็นข้าวมาอัดเป็นก้อนและมีเนื้อปลาวางบนด้านหน้าเท่านั้น

ประเภทของซูชิ

นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) เป็นซูชิพบได้บ่อยในภัตตาคาร ซูชิจะมีลักษณะข้าวเป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก ฯลฯ ไว้ข้างบน อาจจะใส่วาซาบิเล็กน้อย หรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด
มากิซูชิ (Maki Sushi) มีวิธีทำ 3 แบบด้วยกัน (1) ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก (2) ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก (3) ห่อเป็นรูปกรวย เรียกว่า แคลิฟอร์เนียเทมากิ
ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi) เป็นการจัดปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้นๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่อง
โอชิซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน
อินะริซูชิ ซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง

หน้าของซูชิ

ปลาแซลมอน
ปลาโอ
ปลาทูน่า
ไข่หวาน
ไข่กุ้ง
ไข่ปลาแซลมอน
หนวดปลาหมึกยักษ์
กุ้ง
ยำสาหร่าย
ปลาซาบะ
ปลากระพง
ไข่หอยเม่น
ปลาธง
แตงกวาดอง
ปลาไหล
ผัดหอย
ปลาหมึกผัด

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไม่น่าเชื่อ "มะพร้าว" ก็ช่วยผมสวยได้


มะพร้าวถือเป็นพืชยืนต้นที่พบได้มากมายในประเทศเขตร้อน ซึ่งมะพร้าวนั้นเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า ถือเป็นหนึ่งในต้นไม้สารพัดประโยชน์ เพราะเราสามารถนำส่วนต่าง ๆ ของต้นมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลำต้น ใบ หรือแม้แต่ผลของมัน


ซึ่งผลของมันหรือลูกมะพร้าวนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายไม่ว่าจะกิน ใช้สอย หรือแม้แต่เอามาทำสวย โดยเฉพาะการนำเอามาหมักผมนั้นจะยิ่งทำให้ผมสวย


วิธีการก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำน้ำกะทิมาใช้แทนครีมนวดผม ซึ่งเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีเส้นผมที่แห้งเสีย แตกปลาย โดยใช้กะทิแทนครีมนวดผม นวดให้ทั่วทั้งศีรษะประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ล้างออกให้สะอาด แต่สำหรับผู้ที่มีหนังศีรษะมันอยู่แล้วไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เพราะผมอาจจะมันยิ่งขึ้นไปได้


รับรองว่าวิธีนี้ผมของคุณจะนุ่มชุ่มชื่น และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของมะพร้าวแน่ ๆ จ้า !!~