Powered By Blogger

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

สัญญาณเตือนสุขภาพ กับวิธีดูแลรักษา


สุขภาพดีเป็นสิ่งที่เราต้องการแต่หลายคนมักจะลืมใส่ใจตัวเองมารู้อีกทีอาการหนักเอาการอยู่แล้ว โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทจึงจัดกิจกรรม 10วิธีสังเกตและแก้ไขสุขภาพที่ทรุดโทรมเตรียมรับมือดูแลรักษาและป้องกัน เริ่มจากสังเกตุ

1.เดินขึ้นบันไดแล้วเหนื่อยหอบเเฮกๆนี่เป็นสัญญาณเตือนว่าสุขภาพเริ่มถดถอย วิธีแก้ ใส่ใจออกกำลัง กายเสียบ้าง ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตามสวนสาธารณะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

2.ปวดหลังเป็นประจำต้องแก้ด้วยการปรับเปลี่ยนท่านั่ง ท่ายืน ท่าเดินและท่านอนซะใหม่เวลานั่ง ยืน เดิน คอยเตือนตัวเองให้หลังตรงอยู่เสมอ

3.นอนไม่หลับหรือนอนมากแต่ก็ยังเพลียอาจเกิดจากความเครียดจากการงานเรื่องส่วนตัว ต้องหาวิธี หัวเราะ ยิ้มบ้าง

4.น้ำหนักลดอย่างผิดปกติ(โดยไม่ได้ตั้งใจลด)เป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกาย ต้องใส่งใจเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้นและการออกกำลังกาย

5.ปวดหัวเป็นประจำ สาเหตุหลักมักเกิดมาจากการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อต้นคอแต่ก็เเก้ไขได้ไม่ยากด้วย การนวดบรรเทาความปวดอย่างง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง

6.ท้องผูกแก้ไม่ยากเพียงกินอาหารที่มีกากเส้นใยจำพวกผักผลไม้และอย่าเครียด

7.ลุก-ยืน เกิดอาการหน้ามืดเป็นโรคของความดันแค่หันมาออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายต่อเนื่องมากกว่า 10 นาที ให้กับตัวเอง

8.ตัว-ตาเหลือง คอสุรามักมีอาการนี้ แนะให้หันมาดื่มนมซะบ้าง

9.ปวดไหล่-คอ หนีไม่พ้นแนะให้ออกกำลังกายนั่นแหละดีที่สุด

10.ขี้ลืมมากกว่าทุกๆ วัน อาการของคนสูงอายุ แต่ถ้ายังไม่ทันแก่ก็เป็นซะแล้ว แสดงว่าเคร่งเครียดกับชีวิตนเกินไปหาทางผ่อนคลาย จะเดินเล่นกับแฟน ดูหนังตลก หาของอร่อยกินซะยิ่งพวกปลาทะเลยิ่งดีเพราะมีโอเมกาทรี (omega3) สารต่อต้านอนุมูลอิสระทำให้เซลล์สมองไม่แก่เร็วแบบนี้ใส่ใจกับอาการ ตัวเองให้มากขึ้นไม่ต้องรอให้ไปถึงมือหมอไม่อย่างนั้นสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2551

การใช้ภาษาอังกฤษผิดๆ ที่ทำให้คนฟังหัวเราะ

ไม่มีใครที่เรียนภาษาต่างชาติโดยที่ไม่เคยพูดผิดเลยซักครั้งหรอก และในขณะที่เราพยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดผิดๆ ที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกเปิ่น มันก็ยากพอสมควรที่จะพูดไม่ให้ผิดเลย ฉะนั้นเตรียมตัวหัวเราะขำขันตัวเองเป็นครั้งเป็นคราวเถอะ และต่อไปนี้ก็คือตัวอย่างการใช้คำผิดๆ ที่รับรองว่าใครได้ยินก็ต้องอดขำไม่ได้

I cooked my grandma.
คุณกำลังพูดถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "My grandma visited and I cooked her." มันแน่อยู่แล้วว่าคุณไม่ได้ cook คุณยายคุณซักหน่อย คุณเพียงแต่ "cooked FOR her". คำกริยาอาจเปลี่ยนความหมายไปโดยสิ้นเชิงถ้าหากมีคำprepositionตามหลังมา (เช่น find, find out หรือ grow, grow up) เพราะฉะนั้นระวังให้ดี ! จงใช้คำว่า'for' เสมอเมื่อคุณกำลังพูดถึงการทำอาหารให้คนอื่นทาน และไม่ต้องใช้มันเมื่อคุณพูดถึงการทำอาหารจานนั้นๆ เช่น "I cooked spaghetti." และไม่ว่ายังไงก็ตาม อย่าทาน Grandma Betty ที่ปรุงซะสุกแล้วเป็นอาหารเย็นเชียวล่ะ !

I went to hold up my sister at school.
พูดอย่านี้แล้วผู้ฟังจะนึกภาพออกสองอย่าง อย่างแรกคือคุณช่วยไม่ให้น้องสาวคุณหกล้มลงไป หรืออย่างที่สองคือคุณใช้ปืนจี้น้องสาวตัวเองในการปล้นชิงทรัพย์จากเธอ ซึ่งในความเป็นจริงคุณคงไม่แม้แต่จะคิดฝันว่าจะทำอย่างนั้นหรอกนะ ! คุณคงตั้งใจจะใช้คำว่า'pick up', ไม่ใช่ 'hold up'แน่ๆ เพราะคำว่า 'To pick up' หมายถึง 'to take hold of'(เก็บหรือหยิบจับขึ้นมา)หรืออาจจะหมายถึง 'to fetch someone' ทางรถยนต์(ไปรับใครบางคนซึ่งปกติหมายถึงขับรถไปรับนั่นเอง) ดังนั้นถ้าไม่อยากให้น้องสาวอารมณ์เสียก็อย่าลืมไป 'pick her up' – ไม่ใช่ไปรั้งเธอให้ยืนขึ้นหรือปล้นเธอเข้าล่ะ!

The chicken was crowded with people.
ไปคุยกันเล่นใน chicken(ไก่) นั้นไม่ค่อยธรรมดาเลยนะ หรือคุณหมายถึง 'kitchen'(ครัว)? คำว่าChicken และ kitchen ทั้งคู่เป็นตัวอย่างศัพท์อังกฤษที่ออกเสียงสลับกันทำให้สับสนได้บ่อยๆ ในกรณีนี้ทั้งสองคำต่างก็มีเสียง 'ch' และ 'k' เหมือนกันเพียงแต่สลับที่กันเท่านั้น ลิ้นของคุณอาจพันกันทำให้ออกเสียงผิดโดยไม่ตั้งใจ ดังนั้นถ้าคุณจะชวนเพื่อนไปใน kitchen เพื่อกิน chicken น่ะได้ แต่อย่าสลับคำกันก็แล้วกัน !
We asked our neighbors to eat the cat while we were on vacation.
เพื่อนบ้านคุณอาจคิดว่าคุณติ๊งต๊องถ้าคุณไปเคาะประตูเขาแล้วขอให้เขากินแมวของคุณ เชื่อได้เลยว่าแมวคุณเองก็คงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่นักหรอก ! และนั่นก็เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ถ้าคุณสับสนกับการใช้คำกริยา'to eat' และ'to feed' คำแรกหมายถึง 'to consume food'(รับประทานเป็นอาหาร) ส่วนคำหลังหมายถึง 'to give food'(ให้อาหาร) นับว่าต่างกันไม่ใช่เล่นนะ โดยเฉพาะถ้ามีสัตว์เลี้ยงของคุณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย !

I'm so boring!
พูดอย่างนี้กับเพื่อนที่ดูหนังด้วยกันอยู่แล้วเขาอาจจะมองคุณด้วยสายตาแปลกๆ คุณหมายถึงว่าบุคคลิกภาพของคุณนั้นค่อนข้างเฉื่อยแฉะน่าเบื่อหรือว่าหนังที่กำลังดูอยู่นั้นไม่สนุกหรือน่าสนใจเอาซะเลย? คนที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษอยู่หลายคนที่พูดผิดอย่างนี้เพราะสับสนระหว่างรูปของ present และ past participles (คำที่มีรูปแบบกิริยาแต่ใช้เป็นคำ adjective) ในกรณีนี้ คุณสามารถพูดได้อย่างถูกต้องว่า"The film is boring because it is making me bored." ฝึกการใช้ประโยคที่มีคำ participles อื่นๆ อย่างเช่น 'confused / confusing' และ 'interested / interesting' จนกว่าคุณจะเข้าใจถึงความแตกต่างในการใช้และความหมายของแต่ละคู่ !

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2551

Théâtre


Le théâtre désigne à la fois l'art de la représentation dramatique, un genre littéraire particulier (voir théâtre (genre littéraire)) et le bâtiment dans lequel se déroulent les spectacles de théâtre (voir théâtre (bâtiment)).
Jadis, le mot désignait également la scène ou le plateau, c'est-à-dire toute la partie cachée du public par le rideau.
Au sens figuré, « théâtre » désigne un lieu où se déroule une action importante (par exemple, un théâtre d'opérations militaires).
Aujourd'hui, à l'heure des arts dits pluridisciplinaires, la définition de l'art du théâtre est de plus en plus large (jusqu'à se confondre avec l'expression spectacle vivant), si bien que certains grands metteurs en scène n'hésitent pas à dire que pour qu'il y ait théâtre, il suffit juste d'avoir un lieu, un temps, un acte et un public.
Il s'agit de spectacles dans lesquels des acteurs incarnent des personnages pour un regard extérieur (le public), dans un temps et un espace limités. Les dialogues écrits sont appelés pièces de théâtre, mais il peut y avoir également du théâtre sans texte écrit ou même sans aucune parole. Dans la création contemporaine les frontières entre les différents arts de la scène (théâtre, mime, cirque, danse...) sont de plus en plus ténues, si bien que certains professionnels n'hésitent pas à remplacer le mot théâtre par les mots spectacle pluridisciplinaire, ou spectacle vivant, mettant ainsi l'accent sur le métissage des disciplines.

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551

Chilopoda++ตะขาบ++


Les chilopodes (Chilopoda) sont une classe d'arthropodes myriapodes. Chacun des nombreux segments porte une paire de pattes sauf le premier dont la paire d'appendices est transformée en paire de crochets à venin appelés « forcipules » ; La morsure des plus grandes espèces est douloureuse pour un homme adulte et peut parfois être dangereuse pour un enfant.
Les chilopodes sont prédateurs d'autres arthropodes ou de vers. Ils sont tous terrestres mais ont besoin d'un milieu humide car leur cuticule ne possède pas de couche de cire leur permettant de résister à la déshydratation. Ce sont des epsèces lucifuges (qui fuient la lumière).
Ils jouent un rôle important dans les communautés d'espèces qui contribuent à la production du sol et en particulier de l'humus.


ตะขาบ จัดอยู่ใน Class Chilopoda เป็นสัตว์ขาข้อที่พบได้ในเขตร้อนชื้น อาศัยอยู่บนบก ตะขาบมีขนาดความยาวของลำตัวตั้งแต่ 3 - 8 ซม. ขนาดใหญ่ที่สุดคือชนิด Scolopendra heros มีความยาว 8 - 10 " ลำตัวแบนราบ มีปล้อง 15 - 100 ปล้อง แต่ละปล้องมีขา 1 คู่ ส่วนหัวแยกจากลำตัวชัดเจน มีหนวด 1 คู่ โดยมีเขี้ยวพิษ 1 คู่ ซึ่งดัดแปลงมาจากปล้องแรกของลำตัว เขี้ยวพิษเชื่อมต่อกับต่อมพิษ เมื่อกัดเหยื่อจะปล่อยพิษออกมา ทำให้เหยื่อเจ็บปวด และเป็นอัมพาต ตะขาบวางไข่ในที่ชื้นหรือต้นพืชหญ้า ใช้เวลาในการเจริญเติบโตนาน ลอกคราบ 10 ครั้ง ตัวเต็มวัยมีอายุ 3 - 5 ปี ในเวลากลางวันจะซ่อนอยู่ในที่เย็นๆ ใต้ก้อนหิน ออกหาเหยื่อในเวลากลางคืน กินแมลงเป็นอาหาร เมื่อถูกตะขาบกัดจะพบรอยเขี้ยวสองรอย ลักษณะเป็นจุดเลือดออกตรงบริเวณ ที่ถูกกัด พิษของตะขาบทำให้มีการอักเสบ ปวดบวมแดงร้อน ชา เกิดอัมพาต ตรงบริเวณที่ถูกกัด ในบางรายอาจมีอาการแพ้ หรือกระวนกระวาย อาเจียน หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มึนงง ปวดศีรษะ อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนตรงบริเวณที่ถูกกัด อาจเป็นแผลไหม้อยู่ 2-3 วัน

วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551

Mer d'Andaman


La mer d'Andaman est une mer tributaire de l'Océan Indien, bordant les côtes du Myanmar, de la Thaïlande, de la Malaisie, de l'Indonésie et des territoires indiens des îles Andaman et Nicobar. Elle est limitée au nord et à l'est par l'Indochine et la péninsule malaise, au sud par le détroit de Malacca et l'île de Sumatra et à l'ouest par les îles d'Andaman et Nicobar, qui la séparent du Golfe du Bengale.



ทะเลอันดามัน (Andaman Sea) เป็นทะลที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอ่าวเบงกอล ส่วนหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย ทางเหนือของทะเลติดกับปากแม่น้ำอิระวดีในประเทศพม่า ทางตะวันออกเป็นคาบสมุทรพม่า ประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย ทางตะวันตกเป็นหมู่เกาะอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์ ภายใต้การปกครองของอินเดีย ทางใต้ติดกับเกาะสุมาตรา (ส่วนหนึ่งของอินโดนีเซีย) และช่องแคบมะละกา ทะเลอันดามันมีความยาวจากเหนือจรดใต้ประมาณ 1,200 กิโลเมตร กว้าง 650 กิโลเมตร กินพื้นที่ประมาณ 797,700 ตร.กม. มีความลึกเฉลี่ย 870 เมตร จุดที่ลึกที่สุดมีระดับความลึก 3,777 เมตร

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

Canapé




Un canapé, sofa ou divan est un meuble confortable ayant plusieurs places et habituellement un appui-bras de chaque côté. Les canapés se trouvent généralement dans le séjour ou le salon. Ils peuvent être fabriqué avec différent textiles ou en cuir.
Le terme sofa s'utilise généralement lorsqu'il y a trois places assises.

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

Grand dauphin



Le grand dauphin également appelé souffleur ou dauphin à gros nez (Tursiops truncatus) est un cétacé à dents (odontocète) appartenant à la famille des Delphinidae. C'est l'espèce la mieux connue de sa famille, notamment parce qu'elle a été longuement étudiée en captivité et, à l'état naturel, le long des côtes qu'elle fréquente (en Floride notamment). C'est aussi l'une des rares espèces de dauphins à pouvoir survivre aux conditions de vie controversées des delphinarium. C'est celle que le grand public associe généralement aux dauphins (surtout grâce à la série télévisée Flipper le dauphin). On la reconnaît à son « sourire » assez caractéristique, dû aux plis de son bec (un rostre).
Le grand dauphin est présent dans toutes les mers du monde, à l'exception des zones arctiques et antarctiques. Il existe deux populations assez distinctes : une côtière et une pélagique. Les grands dauphins chassent en utilisant la technique de l'écholocation. Ils se nourrissent principalement de poissons qu'ils saisissent grâce à une centaine de petites dents pointues non différenciées. Les dauphins communiquent grâce à une variété de sons émis par l'intermédiaire du melon, un sac nasal situé sur le front. Ils atteignent la maturité sexuelle vers l'âge de 12 ans. Les femelles donnent naissance à un seul petit. Les grands dauphins vivent généralement en groupe formé des femelles et des jeunes, alors que les mâles forment des associations appelées alliances. C'est un animal qui montre une certaine curiosité lors de ses rencontres avec des humains.

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

Ciel



Le ciel est l'atmosphère de la Terre telle qu'elle est vue depuis le sol de la planète.

Ciel à la tombée de la nuit
Le mot ciel vient du latin caelum qui implique une forme circulaire et contient une connotation de pureté et de perfection harmonieuse

De jour et de nuit
À cause du Soleil, le ciel diurne est complètement différent du ciel nocturne. Durant le jour, la brillance du Soleil surpasse celle des autres corps célestes. La lumière du Soleil a une couleur blanche jaunâtre qui couvre l'ensemble du spectre.
L'atmosphère de la Terre diffuse la lumière du Soleil dans toutes les directions et, plus particulièrement, la longueur d'onde bleue, ce qui donne au ciel sa couleur (voir Couleur du ciel et Diffusion Rayleigh).
Par conséquent, le Soleil nous apparaît jaune car la partie bleue de son spectre est plus diffusée. Depuis l'espace, le Soleil est blanc. Le bleu et le jaune constituent des couleurs complémentaires.
Grande Ourse et Petite Ourse
Par contraste, le ciel nocturne est privé de la lumière du Soleil. Par conséquent, il fait noir, ce qui nous permet d'observer des milliers d'étoiles scintiller dans le ciel. Les étoiles sont toujours présentes durant la journée (les plus brillantes sont visibles à l'aide d'un télescope), mais ne peuvent être vues, car le Soleil leur fait concurrence.
Le paradoxe d'Olbers, dit « du ciel de feu », est une contradiction apparente entre le ciel noir de la nuit et une infinité d'étoiles dans un univers infini.

Araneae





Les araignées ou aranéides (ordre des Araneae) sont des prédateurs invertébrés arthropodes de la classe des arachnides. Ce ne sont pas des insectes. Elles sont incluses dans un groupe plus vaste contenant également les scorpions, les uropyges, les acariens, les tiques et les opilions. Elles possèdent toutes huit pattes, pas d'ailes ni d'antennes, ni de pièces masticatrices dans la bouche. Elles ont des yeux simples et multiples, et produisent de la soie (une protéine synthétisée par une glande généralement située à l’extrémité de l’abdomen). Cette soie sert à produire le fil qui leur permet de se déplacer verticalement ou latéralement lorsqu’il y a du vent, de tisser leur toile ou des cocons emprisonnant leurs proies ou protégeant leurs œufs ou petits, voire de faire une réserve provisoire de sperme ou un dôme leur permettant de stocker de l’air sous l’eau (douce). De nombreuses espèces chassent librement et sans faire de toile, en se déplaçant, ou à l’affût, parfois dans un trou qui peut être construit comme un piège.En tant que prédatrices, les araignées jouent un rôle majeur dans la régulation des populations d'insectes, et elles sont elles-mêmes régulées par des prédateurs souvent spécifiques (reptiles, oiseaux ou insectes de la famille des Pompilidae). Elles se sont adaptées à presque tous les milieux, cavernicoles à montagneux, des milieux arctiques à équatoriaux. Seules les eaux salées et les très hautes altitudes et milieux très froids n’ont pas été colonisés par les araneae.L'étude scientifique des araignées se nomme l'aranéologie (ou arachnologie).La peur irrationnelle des araignées se nomme l'arachnophobie, une des phobies les plus communes.
Sauf celles appartenant à deux familles (Uloboridae et Holarchaeidae), et au groupe des Mesothelae (350 espèces en tout), toutes les araignées peuvent inoculer un venin pour se protéger et/ou pour tuer et liquéfier les organes internes de leurs proies.
De nombreuses morsures de grandes espèces sont très douloureuses, mais ne laisseront pas de séquelles. Seules 200 espèces connues ont des morsures qui peuvent poser des problèmes de santé à l’homme