...เศรษฐีคนหนึ่ง อยู่กรุงเทพฯ เป็นนักสะสมซากสัตว์ เขาสัตว์ งาช้าง หนังเสือ เต็มบ้านไปหมด ทุกเสาร์-อาทิตย์ ก็ออกไปล่าสัตว์ เมียของเศรษฐีผู้นี้ มีลูกอ่อนอายุประมาณ 3 เดือน
วันหนึ่ง ขณะออกล่าสัตว์ ก็เห็นลูกลิงตัวหนึ่ง สวย น่ารัก ขนสีขาว แปลกมาก จึงอยากได้มาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ ก็เลยปรึกษากับพรานป่าที่เป็นคนนำทางว่า.. "ทำอย่างไร..จึงจะได้ลูกลิงมาเลี้ยง..? พรานป่าบอกว่า.."โดยสัญชาตญาณ ลิงจะรักลูกมาก รักสุดชีวิต ตราบใดที่แม่ลิงยังไม่ตาย ไม่มีใคร สามารถเอาลูกมันออกมาจากอกได้... มันจะสู้สุดชีวิต" สุดท้าย... เศรษฐีตัดสินใจยิงแม่ลิงตาย แล้วเอาลูกลิงสีขาวมาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เมื่อยิงแม่ลิงตาย ก็เอาเนื้อไปแกง ให้ลูกน้องถลกหนังเก็บหนังไว้ประดับบ้าน พอกลับถึงกรุงเทพฯ ก็เอาลูกลิงเลี้ยงไว้ในบ้าน หยอกล้อวิ่งเล่นกับลูกลิงเป็นที่สนุกสนาน ส่วนหนัง ของลิงตัวแม่ มันยังสดอยู่ มีกลิ่นเหม็น ก็เอาไปตากแดดที่ลานจอดรถหน้าบ้าน... เช้าวันหนึ่ง ขณะเมียเศรษฐีกำลังให้นมลูกกินในห้องรับแขกหน้าบ้าน อยู่ๆ เมียก็ร้องไห้โฮดังลั่นบ้าน เศรษฐีตกใจ จึงวิ่งลงมาจากชั้นบน โผเข้าไปกอดเมีย และลูกไว้ใบหน้าตกใจ สุดขีด พยายามถามเมียว่า "เกิดอะไรขึ้น..?" เมียไม่ยอมตอบ เอาแต่ส่ายหน้า แล้วก็ร้องไห้ พร้อมกับหันไปมองหน้าลูกตัวเองที่กำลัง หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข... เศรษฐีนั่งปลอบเมียอยู่สักครู่ พอเริ่มตั้งสติได้ก็ถามเมียว่า.. "เกิดอะไรขึ้น ตกใจเรื่องอะไร แล้วร้องไห้ เรื่องอะไร..?" เมียไม่ยอมพูด แต่ชี้มือไปที่ลานจอดรถหน้าบ้าน เศรษฐีมองตามไปเห็นภาพถึงกับผงะตกใจ น้ำตาไหล ไม่รู้ว่า..ลูกลิงที่เอามาเลี้ยงไว้ หลุดออกไปนอกบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ มันออกไปดูดนมแม่ ที่เป็นหนังแห้ง ซึ่งถูกถลกออกมา นำไปตากไว้ที่โรงรถ พอเจ้าลิงน้อยดูดเสร็จ มันก็ก้มลงกอดแม่ น้ำตาไหลพรากๆ... เศรษฐีและเมียทนดูไม่ได้ ร้องไห้โฮ คุยกันว่า.. "ถ้ามีคนทำกับครอบครัวเราอย่างนี้บ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร จะเศร้าโศก เสียใจ ทุกข์ทรมานใจขนาดไหน..?" ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา.. เศรษฐีสั่งให้เอาซากสัตว์ที่สะสมทั้งหมดไปเผา เอาลูกลิงไปปล่อยในป่า เลิกการ ออกล่าสัตว์ เข้าวัด ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แม่ลิงตัวนั้น และขออโหสิกรรม ทุกครั้งที่ทำบุญ จะขอพรทุกครั้งว่า.. "ขออย่าให้มีใครมาทำกับครอบครัวเรา เหมือนกับที่เราได้ทำกับครอบครัวลิงตัวนั้นเลย.."
"ถ้ารักลูกของเรา จงอย่าทำร้ายลูกคนอื่น ถ้าอยากให้ ครอบครัวของเรามีความสุข จงอย่าทำร้ายครอบครัวคนอื่น"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น