วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552
อาหารเจที่ชอบกินกันนั้นบอกอะไรได้บ้าง?
อยู่ในช่วง “เทศกาลกินเจ” เพื่อรักษาศีล จิตสงบ เกิดสิริมงคลเพิ่มพลังชีวิต ปัจจุบันอาหารเจมีมากมายกว่าแต่ก่อน การชื่นชอบอาหารเจบางชนิด สามารถทายใจได้ ลองมาดูกัน
ต้มจับฉ่าย : ผู้ที่ชื่นชอบต้มจับฉ่าย แสดงว่ามีความสามารถหลายด้าน สติปัญญาดี ขยันรอบรู้และหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ คิดแล้วทำด้วยตัวเอง เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายความสำเร็จของชีวิตที่มั่นคง ภายนอกมองดูสุขุมเยือกเย็น เอื่อยเฉื่อย แต่งกายแลดูสบายๆ แต่ภายในใจลึกๆ แล้วโหยหาความรักความอบอุ่น รักการดูแลสุขภาพ เปิดเผย เชื่อมั่น เป็นตัวของตัวเอง มีมานะพยายาม ขยันหมั่นเพียร มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ชอบการประนีประนอม มีมนุษยสัมพันธ์ดี รู้จักเลือกใช้งานคนอื่นได้ดี และก็ได้รับความนิยมยกย่องจากสังคม เป็นที่ปรึกษาที่ดีของผู้อื่นอีกด้วย
มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว : ผู้ที่ชื่นชอบมะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว แสดงว่า มีความสุขุม ชอบเก็บตัว อาจจะทำอะไรแปลกๆ ทุ่มเทให้การงาน เสียสละ มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นที่อ่อนด้อยกว่าตน มีความกล้าอย่างมีเหตุผล รับผิดชอบ มีสติปัญญาประสาทสัมผัสดีไวต่อความรู้สึก มักจะชอบทำอะไรให้สำเร็จไปโดยไม่ชอบให้คั่งค้าง จริงจังตรงไปตรงมาแบบขวานผ่าซาก อาจจะซ่อนอารมณ์ความรู้สึกภายใน อาจจะชอบเก็บตัวและดูเป็นคนเก็บกดไปก็ได้ ชอบฟังเพลงหรือเฮฮาแบบแปลกๆ ก็ได้ อาจพอใจกับการอยู่เงียบๆ คนเดียว คิดมาก ชอบวิตกกังวล อารมณ์อ่อนไหวง่ายแต่อาจจะซ่อนอยู่ภายใน
ผัดหมี่ซั่ว : ผู้ที่ชื่นชอบผัดหมี่ซั่ว แสดงว่า มี แรงบันดาลใจ รักศรัทธา เชื่อมั่น มีศิลปะเสียงเพลงอยู่ในหัวใจ มีอุดมการณ์อย่างสร้างสรรค์ บากบั่น อดทน ตรงไปตรงมา รักความถูกต้อง ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาใคร สามารถแก้ไขปัญหาด้วยความนุ่มนวล อาจชอบทำบางอย่างแปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใคร จนทำให้คนรอบข้างทึ่งไปตามๆ กัน อาจเข้าไปวุ่นวายในชีวิตคนอื่นในลักษณะของคนเจ้าระเบียบ มีกฎเกณฑ์ จุกจิกจู้จี้ไปบ้างก็เพราะหวังดี อาจมีอารมณ์อ่อนไหว วิตกกังวล ใจร้อน โกรธง่ายและหายเร็ว หรือเก็บความรู้สึกอยู่คนเดียว ในเรื่องความรัก ก็อย่าหวั่นไหวกับสังคมภายนอกให้มากนัก
ห่านพะโล้เจ : ผู้ที่ชื่นชอบพะโล้เจ แสดงว่า คุณ มีจิตนาการ มีเสน่ห์ อ่อนหวานนุ่มนวล รักความสวยงาม โรแมนติก รสนิยมดี มีดนตรีอยู่ในหัวใจ น่ารัก น่าสนใจ มีคำพูดที่จูงใจคนเก่ง บางครั้งอาจดื้อรั้นไปบ้าง แต่สามารถเอาตัวรอดพ้นจากปัญหาที่วุ่นวายได้ดี มีกำลังใจมุ่งมั่นให้ตนประสบชัยชนะอย่างสมปรารถนา และมีความภูมิใจในคุณค่าของตน ชอบการแสวงหาความรู้สิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องลึกซึ้งทางปรัชญาหรือลี้ลับ ส่วนเรื่องความรักคุณกลัวการโดดเดี่ยวและกลัวการขาดความรักความอบอุ่นมาก จะอ่อนไหวมากและพร้อมที่จะระเบิดเมื่อเจอคนถูกใจ
วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เสียงร้องของสัตว์ในภาษาต่างๆ
ตารางที่ ๑ : เสียงร้องของสัตว์บางชนิดในภาษาต่างๆ | |||||
ภาษา / สัตว์ | แมว | หนู | วัว | เป็ด | ม้า |
ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน รัสเซีย สวีเดน จีนกลาง ญี่ปุ่น เวียตนาม ฮินดี เบงกอลี | เมี้ยวๆ, เหมียว meow [B] miaou [B] miau [B] myau [B] mjan mjan [A] miao miao [B] nyaa nyaa [B] meo-meo [B] mya:u mya:u [B] meu-meu [B] | อี๊ดๆ Eek [A] - piep piep [A,B] pi-pi-pi [A] pip [B] zi zi [B] chuuchuu [B] chu-chu [B] chit-chit [B] chu:-chu: [B] chuu-chuu [B] | มอๆ moo [B] meuh [B] mmuuh [B] muu [B] muu [B] mu mu [B] moo [B] - mo:-mo: [B] hamba [B] | ก้าบๆ quack quack [B] coin coin [B] quack, quack [B] krya-krya [B] kvack [B] gua gua [B] gaagaa [B] quck-quak [B] - gack-gack [B] | ฮี้ๆ wehee [A] hiiiii [A] wihiie [A] - - - hihiiiiin [A] - - - |
วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552
กลิ่นมะนาว ช่วยคลาย "เครียด"
อโรมาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นศาสตร์ของการใช้ "กลิ่นระเหย" มาช่วยดูแลสุขภาพ ในรูปของน้ำมันระเหยที่สกัดออกมาอย่างเข้มข้น ใช้ได้ทั้งเพื่อความงาม ในรูปของเครื่องสำอาง ใช้เพื่อสุขภาพ และใช้เพื่อพิธีกรรม โดยเฉพาะเพื่อความงาม ใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ผิว การขับสารพิษ การระงับเชื้อ ฯลฯ
เราสามารถใช้เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ ซ่อมแซมรอยแผล แต้มสิว บำรุงผม หรือการลดริ้วรอยความเหี่ยวย่น โดยใช้ในรูปแบบของโลชั่น น้ำมันนวด สบู่อาบน้ำ หรือแชมพู การใช้เพื่อสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติของการคลายกล้ามเนื้อ ลดความเจ็บปวด การฆ่าเชื้อ ฯลฯ
เราสามารถนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ลดอาการหรือช่วยบำรุงสุขภาพเราได้ ทั้งทางกายและทางใจ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากความเครียด ซึ่งยาเคมีสังเคราะห์มีผลข้างเคียงสูง ขณะที่น้ำมันหอมระเหยเป็นสารธรรมชาติ มีการตกค้างและผลข้างเคียงที่น้อยกว่าหรือไม่มีเลย ทำและใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาลทีเดียว
ยิ่ง "มะนาว" นักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ศึกษาแล้วพบว่า กลิ่นของมะนาว โดยเฉพาะจากเปลือก ช่วยลดความเครียดได้ เป็นการใช้กลิ่นหอมทดแทนการใช้ยา น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวนี้ มีฤทธิ์ต่อระบบต่างๆ ผ่านทางผิวหนัง ช่วยระงับเชื้อจากบาดแผล แมลงกัดต่อย ฯลฯ รวมถึงกลิ่นมะนาวยังช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย
วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552
อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท
การกินอาหารตามสูตรชีวจิต : อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท
พอจะแบ่งออกได้เป็น ยา วิตามิน กับอาหารธรรมชาติ ผมอยากจะขอพูดถึงอาหารธรรมชาติก่อน เพราะอาหารกลุ่มนี้ จะมีคุณค่าสูงทางโภชนาการ ทั้งมียาและวิตามิน อยู่ในอาหารเหล่านี้ด้วย ข้อสำคัญ เป็นอาหารที่หาได้ง่ายในท้องตลาด และราคาก็ไม่แพงมากเกินไป อาหารธรรมชาติที่ประกอบด้วยยาและวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสมอง และระบบประสาท ได้แก่
Folic Acid มีอยู่ในผักใบเขียวจัดทุกชนิด แครอต ตับ และไข่แดง แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่วแดง - ดำ - เหลือง ข้าวซ้อมมือ และข้าวสาลีไม่ขัดขาว
Niacin ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ปลา ไข่ ถั่วลิสงคั่ว อะโวคาโด อินทผลัม มะเดื่อ ไก่ ( เนื้อขาว )
Zinc จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง บริวเวอร์ยีสต์ ไข่ นม มัสตาร์ดผง
Potassuim ส้ม ส้มโอ แคนตาลูป มะเขือเทศ แห้ว ผักใบเขียว สะระแหน่ เมล็ดทานตะวัน กล้วยน้ำว้า มันเทศ มันฝรั่ง
Kelp คือต้นไม้ทะเล เกลือแร่ที่ต้องการจาก Kelp คือไอโอดีน สาหร่ายทุกชนิดก็ใช้ได้
Tryptophan คอตเตจชีส นม เนื้อสัตว์ ปลา กล้วย อินทผลัม ถั่วลิสง
Phenylalanine ถั่วเหลืองและผลิตผลจากถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ หอย กุ้ง คอตเตจชีส นม ถั่ว อัลมอนด์ ถั่วลิสง งา เมล็ดฟักทอง
B 1 ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ข้าวสาลีไม่ขัดขาว ข้าวโอต ถั่วลิสง เนื้อหมู ผัก นม
B 6 ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ตับ แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส นม ไข่ เนื้อ
B 12 ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย
DNA / RNA จมูกข้าว รำข้าว ผักโขม หน่อไม่ฝรั่ง เห็ดทุกชนิด ปลา ตับไก่ ข้าวโอต หัวหอม
จะเห็นว่าอาหารบางอย่าง มีทั้งตัวยา วิตามินและแร่ธาตุครบ เช่น ข้าวซ้อมมือ นอกจากจะมีสารอาหารครบหมู่แล้ว ยังมีทั้ง Folic Acid , Niacin , Zinc , B 1 , B 6 , และ DNA / RNA และแร่ธาตุอื่นๆเกือบจะครบถ้วน
วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Cupcake
A cupcake (the common US, Canadian, South African and Australian term) or fairy cake (the common British term), is a small cake designed to serve one person, frequently baked in a small, thin paper cup. As with larger cakes, frosting and other cake decorations, such as sprinkles, are common on cupcakes.
History
In the early 19th century, there were two different uses for the name "cup cake" or "cupcake". In previous centuries, before muffin tins were widely available, the cakes were often baked in individual pottery cups, ramekins, or molds and took their name from the cups they were baked in. This is the use of the name that has persisted, and the name of "cupcake" is now given to any small cake that is about the size of a teacup. The name "fairy cake" is a fanciful description of its size, which would be appropriate for a party of diminutive fairies to share.
The other kind of "cup cake" referred to a cake whose ingredients were measured by volume, using a standard-sized cup, instead of being weighed. Recipes whose ingredients were measured using a standard-sized cup could also be baked in cups; however, they were more commonly baked in tins as layers or loaves. In later years, when the use of volume measurements was firmly established in home kitchens, these recipes became known as 1234 cakes or quarter cakes, so called because they are made up of four ingredients in equal ratios; butter, sugar, eggs and flour.[1][2] They are plain yellow cakes, somewhat less rich and less expensive than pound cake, due to the reduced proportion of butter. The names of these two major classes of cakes were intended to signal the method to the baker; "cup cake" uses a volume measurement, and "pound cake" uses a weight measurement.