Powered By Blogger

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ตุ๊กแก

ตุ๊กแก (Gecko) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่ง มีหลายสีด้วยกัน เช่น น้ำตาล เทา ดำ ฟ้าอ่อนและมีลายจุดสีส้มทั่วตัว สามารถปรับสีได้ตามสภาพแวดล้อมที่อาศัย ดวงตาไม่มีเปลือกตาปกปิด ขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 30 เซนติเมตร กินแมลงเป็นอาหาร
พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะภาคกลาง ตุ๊กแกอาศัยอยู่ทั้งในบริเวณพื้นที่แถบป่าไม้และในบริเวณบ้านเรือน ชอบมุมมืดปราศจากการรบกวน ออกลูกเป็นไข่และมีนิสัยชอบร้องเสียง"ตุ๊กแก..ตุ๊กแก" ติดต่อกัน

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

12 เทคนิคกันสมองเหี่ยว

เรื่องของการปลุกระดมสมองให้สดชื่นแจ่มใสเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ต้องการ เพราะเมื่อสมองแจ่มใส ปลอดโปร่ง อะไรก็ดีตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การฟัง พูด อ่าน เขียน จดจำ หรือความคิด
กลับกัน หากสมองเหี่ยว ฝ่อ ไม่สดใส อาจจะเกิดจากความเครียด หรือการหมกมุ่นกันเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานๆ หรือ ขาดการพักผ่อน ทักษะดังกล่าวก็จะลดน้อยถอยไป กรรมวิธีที่จะทำให้สมองแข็งแรงไปอย่างยืนยาวนั้น สถาบันดีสปายน์ไคโรแพรคติก
เทคนิคมาแนะนำ
1. ดื่มน้ำให้พอ เพราะสมองของคนเราประกอบด้วยน้ำถึง 85% ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดน้ำ สมอง ก็จะทำงานช้าลง ทำให้กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดอะไรไม่ค่อยออก
แต่การดื่มน้ำนั้นแต่ละคนจะมีความต้องการน้ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กันน้ำหนัก และพฤติกรรมต่างๆ ทั้งการเคลื่อนไหว และการบริโภค แต่โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำวันละ 3-5 ลิตร ส่วนเด็ก 2-3 ลิตร
2. หายใจลึกๆ ช่วยส่งพลังงานไปถึงสมอง ถ้านั่งหายใจ หลังก็ควรจะตั้งตรง จะช่วยให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น และถ้านั่งนานเนไปควรเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดเส้น ยืดสาย เพื่อให้ปอดขยาย
3. เลือกรับประทานอาหาร ที่มีไขมันดีทดแทนไขมันในสมองที่สึกหรอ อาทิ น้ำมันปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย ปลาแซลมอน อีฟนิ่งพริมโรส วิตามินซี
4. ตั้งโปรแกรมให้สมอง โดยใช้ความตั้งมั่นตั้งใจอย่างจริงจัง สมองจะค่อยๆ ปรับพฤติกรรมให้ไปสู่เป้าหมายได้
5. หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ไปกระตุ้นพลังออร่าให้สว่างสดใสจะช่วยดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต
6. ฝึกสมาธิพัฒนาอารมณ์ให้สมองผ่อนคลาย จะช่วยทำให้มีจินตนาการมีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำได้ทั้งตื่นเช้าหรือก่อนนอนทุกวัน
7. ออกกำลังกาย กระตุ้นการทำงานของสมองพร้อมกับดื่มน้ำบ่อยๆ
8. หาอะไรใหม่ๆ ให้ชีวิต เช่น รู้จักคนใหม่ๆ อ่านหนังสือเล่มใหม่ ขับรถเส้นทางใหม่ หรือแลกเปลี่ยนทัศนคติใหม่ๆ กับเพื่อน สมองจะหลั่งสารแห่งความสุข (เอ็นดอร์ฟิน) และสารแห่งการเรียนรู้ โดปามีน ทำให้เกิดการอยากเรียนรู้อย่างมีความสุข
9. รู้จักให้อภัยและลดความโกรธ จะทำให้สูญเสียพลังงานน้อยลง และยังเป็นการช่วยลดภาระให้กับสมอง 10. พูดเรื่องดีๆ กับตัวเองซ้ำๆ ให้เกินวันละ 100 ครั้ง
11. บันทึกสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันลงในสมุดบันทึก ช่วยทำให้สมองคิดในเชิงบวก ทำให้หลับฝันดี มีสมาธิ
12. พักผ่อนให้เพียงพอ โดยช่วงเวลา 21.00 น. จะเป็นช่วงเวลานอนที่ดีที่สุด

เรื่องนี้ไม่ใช่เหมาะสำหรับเด็ก แต่เป็นเรื่องที่ทุกเพศ ทุกวัยสามารถปฏิบัติได้เป็นการยืดอายุสมอง ให้อยู่กับเราไปได้นานเท่านาน!!

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อยากได้ลูกลิง ต้องยิงแม่ให้ตาย!


...เศรษฐีคนหนึ่ง อยู่กรุงเทพฯ เป็นนักสะสมซากสัตว์ เขาสัตว์ งาช้าง หนังเสือ เต็มบ้านไปหมด ทุกเสาร์-อาทิตย์ ก็ออกไปล่าสัตว์ เมียของเศรษฐีผู้นี้ มีลูกอ่อนอายุประมาณ 3 เดือน

วันหนึ่ง ขณะออกล่าสัตว์ ก็เห็นลูกลิงตัวหนึ่ง สวย น่ารัก ขนสีขาว แปลกมาก จึงอยากได้มาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ ก็เลยปรึกษากับพรานป่าที่เป็นคนนำทางว่า.. "ทำอย่างไร..จึงจะได้ลูกลิงมาเลี้ยง..? พรานป่าบอกว่า.."โดยสัญชาตญาณ ลิงจะรักลูกมาก รักสุดชีวิต ตราบใดที่แม่ลิงยังไม่ตาย ไม่มีใคร สามารถเอาลูกมันออกมาจากอกได้... มันจะสู้สุดชีวิต" สุดท้าย... เศรษฐีตัดสินใจยิงแม่ลิงตาย แล้วเอาลูกลิงสีขาวมาเลี้ยงที่กรุงเทพฯ เมื่อยิงแม่ลิงตาย ก็เอาเนื้อไปแกง ให้ลูกน้องถลกหนังเก็บหนังไว้ประดับบ้าน พอกลับถึงกรุงเทพฯ ก็เอาลูกลิงเลี้ยงไว้ในบ้าน หยอกล้อวิ่งเล่นกับลูกลิงเป็นที่สนุกสนาน ส่วนหนัง ของลิงตัวแม่ มันยังสดอยู่ มีกลิ่นเหม็น ก็เอาไปตากแดดที่ลานจอดรถหน้าบ้าน... เช้าวันหนึ่ง ขณะเมียเศรษฐีกำลังให้นมลูกกินในห้องรับแขกหน้าบ้าน อยู่ๆ เมียก็ร้องไห้โฮดังลั่นบ้าน เศรษฐีตกใจ จึงวิ่งลงมาจากชั้นบน โผเข้าไปกอดเมีย และลูกไว้ใบหน้าตกใจ สุดขีด พยายามถามเมียว่า "เกิดอะไรขึ้น..?" เมียไม่ยอมตอบ เอาแต่ส่ายหน้า แล้วก็ร้องไห้ พร้อมกับหันไปมองหน้าลูกตัวเองที่กำลัง หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข... เศรษฐีนั่งปลอบเมียอยู่สักครู่ พอเริ่มตั้งสติได้ก็ถามเมียว่า.. "เกิดอะไรขึ้น ตกใจเรื่องอะไร แล้วร้องไห้ เรื่องอะไร..?" เมียไม่ยอมพูด แต่ชี้มือไปที่ลานจอดรถหน้าบ้าน เศรษฐีมองตามไปเห็นภาพถึงกับผงะตกใจ น้ำตาไหล ไม่รู้ว่า..ลูกลิงที่เอามาเลี้ยงไว้ หลุดออกไปนอกบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ มันออกไปดูดนมแม่ ที่เป็นหนังแห้ง ซึ่งถูกถลกออกมา นำไปตากไว้ที่โรงรถ พอเจ้าลิงน้อยดูดเสร็จ มันก็ก้มลงกอดแม่ น้ำตาไหลพรากๆ... เศรษฐีและเมียทนดูไม่ได้ ร้องไห้โฮ คุยกันว่า.. "ถ้ามีคนทำกับครอบครัวเราอย่างนี้บ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร จะเศร้าโศก เสียใจ ทุกข์ทรมานใจขนาดไหน..?" ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา.. เศรษฐีสั่งให้เอาซากสัตว์ที่สะสมทั้งหมดไปเผา เอาลูกลิงไปปล่อยในป่า เลิกการ ออกล่าสัตว์ เข้าวัด ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แม่ลิงตัวนั้น และขออโหสิกรรม ทุกครั้งที่ทำบุญ จะขอพรทุกครั้งว่า.. "ขออย่าให้มีใครมาทำกับครอบครัวเรา เหมือนกับที่เราได้ทำกับครอบครัวลิงตัวนั้นเลย.."

"ถ้ารักลูกของเรา จงอย่าทำร้ายลูกคนอื่น ถ้าอยากให้ ครอบครัวของเรามีความสุข จงอย่าทำร้ายครอบครัวคนอื่น"

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Durian







Le durian (prononcer dourian) ou durion (Durio zibethinus) est un arbre tropical de la famille des Bombacaceae (classification classique) ou des Malvaceae (classification phylogénétique) qui produit des fruits comestibles. Ce fruit, lui aussi appelé durian, n'est récolté que dans le sud-est de l'Asie. Il se présente comme un gros ovoïde (parfois plus de 40 cm de circonférence), pesant jusqu'à 5 kg, avec une carapace de grosses épines, et poussant en haut de grands arbres. Il est connu pour son goût et son odeur très particuliers.
Le genre Durio compte 30 espèces, toutes originaires du sud-est asiatique. Au moins neuf d'entre elles produisent des fruits comestibles[1]. L'espèce Durio zibethinus est la seule disponible sur le marché international, la vente des autres espèces reste confinée aux régions où elles sont produites.
Le nom vient du malais duri, qui signifie « épine ».






วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Mangoustanier


Le mangoustanier (Garcinia mangostana) est une espèce d'arbres du genre Garcinia, famille des Clusiaceae.
Il existe d'autres espèces de mangoustanier qui fournissent des fruits comestibles, les mangoustans. Ils sont originaires d'Asie du Sud-Est Java, Bornéo, Sri-Lanka, Thaïlande, Colombie, pays dans lesquels les mangoustans se trouvent sur les marchés.
Le mangoustan est un fruit arrondi violacé de la taille d'une balle de golf à la peau épaisse (très amère),appelé péricarpe, renfermant une chair blanche divisée en 5 à 6 quartiers. Le goût fin est un mélange d'acidité et de sucré. Les mangoustans sont des fruits très appréciés en Asie et en Afrique centrale pour leurs propriétés curatives.
Le mangoustan est un des fruits les plus riches en antioxydants naturels, dont au moins 40 xanthones. C'est dans le péricarpe du fruit que ceux-ci sont concentrés.

วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

น่ารักจัง






















แฮมสเตอร์




แฮมสเตอร์แบ่งเป็นชนิดใหญ่ๆได้ 2 ชนิด


แฮมสเตอร์ไม่แคระ คือ พันธุ์ Syrian แฮมสเตอร์แคระ คือพันธุ์ Winter White, พันธุ์ Campbells, พันธุ์ Chinese และ พันธุ์ Roborovski Winter White กับ Campbellsแฮมสเตอร์พันธุ์ Winter White และ พันธุ์ Campbells จะมีลักษณะคล้ายกันมาก จนแยกได้ค่อนข้างยาก ว่าเป็นพันธุ์อะไร โดยเฉพาะ Campbells สีธรรมดา และ Winter White สีธรรมดา จะดูยากมาก ดังภาพ ดูกันออกไหมคะ ว่าตัวบน กับตัวล่าง ตัวไหน เป็น Campbells ตัวไหนเป็น Winter White เฉลย เลยแล้วกัน ตัวที่อยู่บน คือ Winter White สีธรรมดาค่ะ ตัวล่าง คือ Campbells สีธรรมดาค่ะที่จริงแล้ว ด้วยความที่คล้ายกันมาก เดิมนักวิทยาศาสตร์ เคยจัด Campbells และ Winter White เป็น สปีชีย์ เดียวกัน แต่ต่อมา ก็ได้พบความแตกต่าง ของทั้ง 2 พันธุ์นี้ และได้แยกทั้ง 2 พันธุ์นี้ออกจากกันเป็นคนละสปีชีย์ โดยจัด Winter White เป็นสปีชีย์ Sungorus ส่วน Campbell เป็นสปีชีย์ Campbell ค่ะ ถึงจะดูภายนอกคล้ายกัน แต่ทั้ง 2 พันธุ์นี้จะแตกต่างกัน จึงไม่ควรจะนำมาผสมข้ามพันธุ์กันค่ะ ว่ากันว่า 2 พันธุ์นี้ สามารถจะผสมกันได้ เพราะมีความใกล้เคียงกันสูง จำนวนโครโมโซม ก็เท่ากัน แต่ไม่แนะนำให้ผสมข้ามพันธุ์ค่ะ เพราะจะทำให้ลูกที่เกิดมา มีโอกาสพิการ หรือ ผิดปกติสูง แล้วเวลาซื้อ จะรู้ได้อย่างไร ว่าตัวไหนเป็น Campbells หรือ Winter Whiteที่ดูยากก็คือสีธรรมดาค่ะ พอจะสังเกตุข้อแตกต่างได้ ก็คือ Campbells จะมีลายพาดบนหลัง เส้นเดียว ชัดเจนกว่า ส่วนลายด้านข้างๆ ก็จะไม่ชัดเท่า Winter White ค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจค่ะ ในเมืองไทยเราตอนนี้เท่าที่เห็น มีการนำเข้า Campbells มาบ้างแล้ว แต่เท่าที่เห็น มีเพียงสีขาวตาแดงเท่านั้นค่ะ จึงดูง่าย ไม่สับสนค่ะ การผสมข้ามพันธุ์อื่นๆ แฮมสเตอร์พันธุ์อื่นๆ จะผสมข้ามพันธุ์ไม่ติดค่ะ เพราะจำนวน โครโมโซม ต่างกัน และอยู่กันคนละสปีชีย์สายพันธุ์ Syrian Winter White Russian CampbellsRussian Chinese Roborovski ภาพ ชนิด ธรรมดา แคระ แคระ แคระ แคระ ชื่อเล่น Golden, Standard, Fancy, Teddy bear Siberian hamster, Russian hamster Siberian hamster, Djungarian hamster Striped hamster แฮมเตอร์ทะเลทราย ชื่อวิทยาศาสตร์ Cricetus auratus Phodopus sungorus Phodopus campbell Cricetulus griseus Phodopus roborovski สปีชีย์ Auratus Sungorus Campbell Griseus Rovorovski ขนาด 15-20 ซม. 10-12 ซม. 10-12 ซม. 7.5-9 ซม. 4-5 ซม. น้ำหนัก 100-140 กรัม 20-28 กรัม 22-28 กรัม 38-46 กรัม - โครโมโซม 44 28 28 22 34 เวลาตั้งครรภ์ 16 วัน 18-21 วัน 18-21 วัน 21 วัน 23-30 วัน อายุขัย 2-2.5 ปี 1.5-2 ปี 1.5-2 ปี 2-2.5 ปี 3-3.5 ปี ถิ่นกำเนิด พบในซีเรีย ที่ราบ มีหญ้าขึ้น ตะวันออกของคาซัคสถาน และทางตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย ที่ราบสูงชัน ที่แห้ง พบในมองโกเลีย และทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน อาศัยตามเนินทรายในทะเลทราย ทางเหนือของจีน และมองโกเลีย ที่ราบสูงกึ่งทะเลทรายทางตะวันออกและตะวันตกของมองโกเลียและทางเหนือของจีน ความยากใน การผสม ง่าย ง่าย ง่าย ยาก ยาก นิสัย ชอบอยู่ตัวเดียว ชอบอยู่เป็นกลุ่มหลายตัว อยู่เป็นคู่ หรือกลุ่มเล็กๆ อยู่เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ อยู่เป็นคู่ หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ จำนวนลูกเฉลี่ย 4-12 4-6 8 4 6 หย่านม 21 วัน 20 วัน 21 วัน 21 วัน 28-30 วัน มีโอกาสผสม ติดเมื่อ อายุ 2 เดือน อายุ 2 เดือน อายุ 2 เดือน อายุ 3 เดือน อายุ 4 เดือน ในเมืองไทย มีมานานแล้ว ก่อนแฮมเตอร์แคระทุกพันธุ์ เพิ่งนำมาเลี้ยงไม่นาน เพราะเลี้ยงง่าย เพิ่งนำเข้ามาเลี้ยง นิยมสีขาว ตาแดง ยังไม่เคยพบในเมืองไทย เพิ่งนำเข้ามาเลี้ยงไม่นาน เป็นหนูพันธุ์ที่เล็กที่สุด ตื่นเต้นง่าย จับยาก ซึ่งแฮมสเตอร์จะมีนิสัย ที่แตกต่างไปตามสายพันธุ์ อีกด้วย เช่น Syrian จะเป็นแฮมสเตอร์ที่รักสันโดษ มักจะกัดกัน แต่แฮมสเตอร์แคระ จะสามารถอยู่รวมกันเป็นคู่ หรือ หลายตัวได้ แต่ก็มักจะมีการกัดกันบ้างเหมือนกัน เช่น เมื่อมีหนูตัวอื่นบุกรุกมาในถิ่นของตน


น่ากินนะจะบอกให้ . .





ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพมนุษย์


อากาศเปลี่ยนแปลงจะเป็นสาเหตุใหญ่ทำให้ร่างกายของคนในศตวรรษที่ 21 ย่ำแย่

ศ.แอนโทนี่ คาสเตลโล จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ประเทศอังกฤษ เปิดเผยในรายงานว่า อากาศที่ร้อนขึ้นจะทำให้อาหารขาดแคลน เกิดความแห้งแล้ง เกิดสงคราม และน้ำท่วมใหญ่ภายในเวลา 100 ปีข้างหน้า ส่งผลคือประชาชนนับพันล้านคนมีสุขภาพไม่ดี มีโรคภัย ยากจน "ถ้าเราไม่ทำอย่างหนึ่งอย่างใดเดี๋ยวนี้ นักประวัติศาสตร์ในอนาคตก็จะมองพวกเราอย่างดูแคลนว่า ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้"

ในรายงานยังระบุอีกว่า อากาศที่ร้อนขึ้นเพิ่มความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรคที่เกิดจากแมลงและแบคทีเรีย

เช่น โรคมาลาเรีย โรคซาล โมเนลลา ซึ่งประเทศยากจนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ความแห้งแล้งและน้ำท่วมจะสร้างความเสียหายให้กับภาคเกษตรกรรมของประเทศกำลังพัฒนา ก่อให้เกิดอาหารขาดแคลน อาหารมีราคาแพง ผู้ที่ไม่มีอาหารดีๆ กินจึงเป็นโรคขาดอาหาร ขาดโภชนาการที่ดี มีความเสี่ยงในการเกิดสงครามมากขึ้น และผู้ที่อยู่ในเขตพื้นที่ต่ำกว่า 1,000 ล้านคน อาจต้องย้ายถิ่น

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สเต็ก










วันพืชมงคล


วันพืชมงคล หมายถึง วันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่สืบทอดมาแต่โบราณ เพื่อเป็นศิริมงคลแด่พืชพันธ์ธัญญาหาร บำรุงขวัญเกษตรกรและเตือนให้เริ่มเพาะปลูกข้าวและพืชไร่อันเป็นธัญญาหารหลักในการดำรงชีวิตของชาวไทย


พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
เป็นพิธีพราหมณ์มีมาแต่โบราณ เป็นพิธีเริ่มต้นการไถนาเพื่อหว่านเมล็ดข้าว มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เป็นอาณัติสัญญาณว่า บัดนี้ฤดูกาลแห่งการทำนาและเพาะปลูกได้เริ่มขึ้นแล้ว
พระราชพิธีทั้งสองนี้ ได้กระทำเต็มรูปแบบมาเรื่อยๆ จนถึงปี พ.ศ. 2479 ได้เว้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ด้วยสถานการณ์โลกและบ้านเมืองอยู่ในภาวะที่ไม่สมควรจะจัดงานใดๆ จึงว่างเว้นไป 10 ปี ต่อมาทางราชการพิจารณาเห็นว่าประเทศไทย เป็นประเทศกสิกรรม โดยเฉพาะทำนาควรจะได้ฟื้นฟู ประเพณีเก่าอันเป็นมงคลแก่การเพาะปลูก ดังนั้น ใน พ.ศ. 2490 จึงกำหนดให้มีพิธีพีชมงคลขึ้นอีก แต่มีแค่พระราชพิธีพืชมงคลเท่านั้น (พิธีเต็มรูปแบบว่างเว้นไปถึง 23 ปี) ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2503 จึงจัดให้มีราชพิธีจรดพระนาคัลแรกนาขวัญร่วมกับพิธีพืชมงคลนับแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

พุงใหญ่ทำให้ซึมเศร้า ซ้ำทำให้เป็นโรคหัวใจและเบาหวาน


ทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยรัชของสหรัฐฯ ได้ขุดค้นหาความรู้ใหม่พบเหตุผลสำคัญของการที่คนเราต้องพยายามลดไขมันรอบพุงลงเสียว่า เพราะมันอาจทำให้เรากลายเป็นคนซึมเศร้า และพลอยล่อแหลมกับการตกเป็นเหยื่อของโรคหัวใจ และเบาหวานนักวิทยาศาสตร์เคยได้ระแคะระคายมาก่อนแล้วว่า อาการซึมเศร้าเป็นเพื่อนเกลอกับภัยของโรคหัวใจที่ใกล้เข้ามา และเบา หวานแต่ไม่รู้สาเหตุแน่นอนวารสารวิชาการ


"เวชศาสตร์กายจิต" รายงานผลการศึกษาแจ้งว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาพบความเกี่ยวพันของไขมันที่สะสมอยู่รอบพุงกับอาการซึมเศร้าว่า ไขมันเหล่านั้นได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางเคมีขึ้นในร่างกาย อย่างเช่น ก่อให้เกิดสารประกอบของคอร์ติโซลกับสาร ประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบ


"ผลการศึกษาส่อว่า ภาวะที่เนื้อเยื่อมีไขมันสูง ซึ่งทั่วไปเรียกว่าไขมันรอบพุง เป็นช่องทางสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้ภาวะซึมเศร้า มีส่วนส่งเสริมภัยของโรคหลอดเลือดหัวใจและเบาหวาน เราได้พบว่าอาการซึมเศร้าเกี่ยวพันกับไขมันรอบพุงอย่างชัดเจน"