Powered By Blogger

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

5 เคล็ดลับ...ปาร์ตี้ ปีใหม่ ให้สนุก สุขภาพดี


5 เคล็ดลับ...ปาร์ตี้ปีใหม่ให้สนุกสุขภาพดี
หากคุณกำลังมองหาแรงบันดาลใจเพื่อฉลองปีใหม่ปีนี้ให้สนุกทั้งร่างกายและจิตใจ นี่คือ...คำแนะนำที่จะช่วยให้คุณสนุกเริงร่าในเทศกาลแห่งความสุขกันแบบสุดฤทธิ์สุดเดช ที่ไม่ทำลายสุขภาพ แต่จะทำให้สุขภาพของคุณดีวันดีคืนซะด้วยสิ


1. รองท้องด้วยสลัดซักจานก่อนไปปาร์ตี้
ก่อนออกจากบ้านปาร์ตี้ถ้าไม่อยากให้ตัวเอง Enjoy Eating กับอาหารในปาร์ตี้จนลืมอ้วนล่ะก็ รับประทานอะไรรองท้องไปก่อนจะดีกว่า ดีที่สุด...แนะนำว่า เป็นเมนูประเภท "สลัดผัก" หรือ "สลัดผลไม้" ง่ายมาก...เพราะรู้ว่าคุณเสียเวลาไปกับการแต่งตัวออกไปลั้ลลา ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่ก่อนออกจากบ้าน หยิบจับผักที่มีอยู่ในตู้เย็น ผักอะไรก็ได้ หรือผลไม้อะไรก็ได้ หั่นใส่จานราดด้วยน้ำสลัดสำเร็จรูป หรือถ้าเป็นพวกแครอทก็จับมาหั่นเป็นแท่ง จิ้มทานกับน้ำสลัดก็ได้เช่นกัน แค่นี้ก็ทำให้ทานง่ายอร่อยขึ้น ถึงปาร์ตี้ก็ไม่ต้องกินโน่นกินนี่เพราะคุณรองท้องด้วยสลัดเพื่อสุขภาพมาเรียบร้อยแล้ว


2. ดื่มน้ำตาลทุกครั้งที่จิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ปาร์ตี้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูจะขาดกันไม่ได้ เพราะนอกจากเติมสีสันแล้ว ยังช่วยสร้างอารมณ์สนุก คึกคัก ครึกครื้นให้ด้วย ซึ่งหากดื่มพอควรก็เป็นผลดี แต่ดื่มมากไปคงเสียเรื่องแน่ ๆ แต่อย่างที่รู้กัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำลายสุขภาพ ทำลายผิว เสี่ยงได้ก็เลี่ยงซะ แต่ถ้าไม่ได้...ทุกครั้งที่จิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปให้ดื่มน้ำตามเพื่อไปเจือจาง ช่วยได้เยอะทีเดียว


3.แดนซ์กระจายเพื่อสุขภาพ
แน่นอนว่า...ปาร์ตี้ฉลองความสุขแบบนี้ต้องสร้างบรรยากาศให้คึกคักด้วยเสียงเพลงมัน ๆ เร้าใจ ดังนั้น...สร้างตัวคุณให้กลายเป็นขาแดนซ์ซะเลย ไหน ๆ ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยจะได้ Exercise สักเท่าไหร่ อาศัยช่วงเวลานี้ก็ดูเหมาะ ขยับแข้งขยับขา ถ้าเพลงโดนใจก็เริงร่าให้เต็มที่ ได้ทั้งเหงื่อ ได้ทั้งออกกำลังกาย ได้ทั้งคลายเครียด ได้ทั้งเสียงหัวเราะ


4.ก่อนถึงวันปาร์ตี้ หุ่นสวยได้ภายใน 24 ชั่วโมง

มื้อเย็นก่อนวันงาน 1 วัน ให้กินสลัดผักจานใหญ่ที่เต็มไปด้วยข้าวโพดต้ม และผักสดต่างๆ ราดด้วยน้ำสลัด Best Foods รสชาติที่ชอบ ดื่มน้ำ 3 แก้ว ตกดึก ๆ อาจหิว รับประทานผลไม้สด 1 จาน หรือเพิ่มรสชาติความอร่อยแบบไม่อ้วนโดยจิ้มกับน้ำสลัดสูตร Low Fat ก็ได้

ช่วงเช้าของวันมีปาร์ตี้ ในมื้อเช้านี้ทำสลัดทูน่าใส่ผักสลัดกับทูน่ากระป๋อง ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นเสร็จแล้วดื่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว และน้ำเปล่า 2 แก้ว

มื้อกลางวัน หั่นกล้วยหอม 1 ผลใส่ในโยเกิร์ต 1 ถ้วย ทานพร้อมกับสลัดผักอีก 1 จานพร้อมนมพร่องไขมัน 1 แก้ว

ช่วงบ่าย ๆ อาจจะหิว นำแอปเปิ้ล 1 ลูก หั่นเป็นชิ้น ๆ จิ้มกินกับน้ำสลัดรสเลมอน ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว

6 โมงเย็น ใกล้เวลาปาร์ตี้เข้าไปทุกที กินสลัดผลไม้ 1 จาน แล้วจากนั้นไม่ต้องรับประทานอะไรอีกเลย แค่เนี้ย...คุณจะรู้สึกตัวเบา หุ่นบางลง ใส่ชุดสวยได้มั่นใจขึ้น คราวนี้...ก็ปาร์ตี้ได้สนุกแล้วค่ะ


5. เคลียร์งานให้จบก่อนถึงวันปาร์ตี้...

คุณจะไม่สนุกกับปาร์ตี้แน่ ๆ ถ้ายังห่วงหน้าพะวงหลังกับงานที่ยังค้างคาเพราะยังเคลียร์ได้ไม่จบสิ้นแทนที่จะสนุกกลับทำให้เครียดหนักไปด้วยซ้ำ ไม่ดีต่อสุขภาพแน่ ๆ


ฉะนั้น...ต้อง Planning งานของคุณให้ดีๆ อย่างน้อยที่สุดต้องเคลียร์งานจบบริบูรณ์ ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวล เคลียร์ซะให้จบก่อนถึงปาร์ตี้สัก 1 วัน เพื่อได้เตรียมตัวสวยเฉิดฉายเริงร่าเต็มที่ไงล่ะ...Happy New Year

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ค้างคาว สัตว์ที่ค่อนข้างขี้อาย และสุภาพนี้ มีประโยชน์ต่อมนุษย์อย่างไรบ้าง



คนรักค้างคาวหลายคนยืนยันว่า เจ้านกมีหู หนูมีปีกนี้ ที่จริงแล้วค่อนข้างขี้อายและสุภาพ ไม่เหมือนภาพที่เห็นในภาพยนตร์ อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อมนุษย์ไม่น้อย
หากใครมีโอกาสเดินเข้าไปภายในบ้านของคุณ Leslie Sturges อาจจะเข้าใจว่ากำลังอยู่ในถ้ำค้างคาวที่ไหนสักแห่ง เพราะคุณ Leslie และสามีตบแต่งบ้านให้เป็นถ้ำสำหรับดูแลและเป็นที่อาศัยของค้างคาว คุณ Leslie ทำงานให้กับกลุ่ม Bat World NOVA ทางเหนือของรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพิทักษ์ค้างคาว Bat World Sanctuary ในสหรัฐ
คุณ Leslie บอกว่า ผู้คนทั่วไปปฏิบัติต่อค้างคาวไม่ดีนัก เพราะเห็นว่าเป็นสัตว์ตัวเล็กที่อาศัยอยู่ในความมืด แต่หากเข้าใจสัตว์ชนิดนี้มากขึ้น ก็จะยอมรับและรู้ว่าค้างคาวมีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์ คุณ Sherry Keen อาสาสมัครของ Bat World NOVA คือผู้หนึ่งที่ช่วยคุณ Leslie ดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพค้างคาวบาดเจ็บ เธอบอกว่าโดยทั่วไปจะมีคนโทรศัพท์มาแจ้งเมื่อพบค้างคาวในบ้าน ก่อนที่อาสาสมัครของกลุ่มจะเข้าไปช่วยเหลือค้างคาวเหล่านั้น คุณ Leslie บอกว่าภาพลักษณ์ของค้างคาวที่ผู้คนทั่วไปรับรู้นั้น ส่วนใหญ่มาจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด
คนรักค้างคาวผู้นี้บอกว่า คนมักจะคิดกันว่าสัตว์ชนิดนี้น่ากลัว พวกมันจะร่อนลงมากัดและดูดเลือดมนุษย์เหมือนในหนัง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และไม่เคยเกิดขึ้นเลยในโลกความจริง แต่เป็นสิ่งที่ผู้คนยึดติดกับภาพค้างคาว คุณ Leslie ได้จัดให้มีโครงการศึกษาเพื่อให้ความรู้คนทั่วไปโดยเฉพาะเด็กๆ เกี่ยวกับประโยชน์ที่มนุษย์ได้จากค้างคาว เช่น ค้างคาวสีน้ำตาลขนาดใหญ่ สามารถปกป้องพืชผลการเกษตรไม่ให้ถูกหนอนข้าวโพดทำลาย โดยค้างคาวสีน้ำตาล 1 ตัวสามารถจับแมลงได้มากกว่า 1,200 ตัวในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ตามข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ รวมทั้งให้ความเข้าใจอื่นๆแก่เด็กๆเช่นเรื่องที่ว่าค้างคาวไม่ได้ตาบอดอย่างที่คิดกัน และส่วนใหญ่มองเห็นได้ดีพอๆ กับมนุษย์ อีกความรู้หนึ่งคือค้างคาวอาจมีความใกล้ชิดผูกพันกับมนุษย์มากกว่าหนูเสียอีก
คุณ Leslie บอกว่าอีกอย่างหนึ่งที่คนทั่วไปเชื่อกันก็คือ ค้างคาวคือพาหะนำเชื้อโรค ซึ่งที่จริงนั้น ค้างคาวเป็นสัตว์ที่สะอาดมาก พวกมันมักจะทำความสะอาดตัวเอง และค้างคาวตัวอื่นๆ อยู่เสมอ เธอเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผู้คนควรได้รับความรู้ในทางที่ถูกต้องเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้และมีส่วนในการปกป้อง หรืออย่างน้อยก็อย่าเข้าไปทำอันตรายเมื่อพบค้างคาว ดังเช่นที่คุณ Sherry ผู้ช่วยของคุณ Leslie บอกว่าให้ช่วยกันรักษา ไม่ฆ่า และดีต่อค้างคาว

วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คนถนัดขวามีมากกว่าคนถนัดซ้าย?


Clare Porac ศาสตราจารย์ ทางด้านจิตวิทยาแห่ง Pennsylvania State University ซึ่งศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับความถนัดของมือ อธิบายว่า บรรดานักวิจัยซึ่งศึกษาเกี่ยวกับความถนัดของมือมนุษย์ ต่างเห็นด้วยว่า ความถนัดของมือด้านซ้ายและขวามีผลมาจากปัจจัยทางชีววิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธุกรรม มีทฤษฎีที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ 2 ทฤษฎีกล่าวไว้ว่าการคัดเลือกทางธรรมชาติซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการได้คัดเลือกกลุ่มของมนุษย์ส่วนใหญ่ให้มีการควบคุมการพูดและภาษาโดยสมองซีกซ้าย และเนื่องจากสมองซีกซ้ายยังควบคุมการเคลื่อนไหวของมือขวาและการเคลื่อนไหวนี้จำเป็นต่อทักษะในการเขียน กว่าล้านปีของการวิวัฒนาการส่งผลให้มีจำนวนประชากรมนุษย์ที่มีพันธุกรรมที่มีสมองซีกซ้ายควบคุมการพูดและภาษาและถนัดขวา โดยประมาณ85% ของมนุษย์จะถนัดขวา ทฤษฎีนี้จึงอธิบายด้วยว่าทำไม คนส่วนน้อยอีก 15% จึงถนัดมือซ้าย ทฤษฎีนี้ยังอธิบายสาเหตุของการถนัดมือด้วย ยีน ชื่อว่า C gene ซึ่งพบได้ในคนถนัดซ้ายส่วนมากและคนถนัดขวาบางคน นักวิจัยได้บันทึกว่ายีนนี้ถูกควบคุมการแสดงออกโดยวัฒนธรรมและความกดดันของสังคม ทฤษฎีนี้จึงสามารถอธิบายได้ถึงการที่พ่อและแม่ถนัดมือซ้าย มีลูกที่ถนัดมือขวา หรือ พ่อแม่ที่ถนัดมือขวามีลูกที่ถนัดมือซ้าย ถ้าปริมาณยีนทุกยีน(gene pool)ของแต่ละครอบครัวมี C gene ดังนั้นการถนัดมือจึงขึ้นอยู่กับการฝึกของครอบครัวและสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เอื้อประโยชน์ต่อการถนัดของมือใดมือหนึ่ง locus ที่ควบคุมการแสดงออกเกี่ยวกับการถนัดมือ จะบรรจุยีนที่มี 2 อัลลีลคือ C และ D ซึ่งได้มาจากพ่อและแม่อย่างละอัลลีล
คนที่มีลักษณะ DD จะถนัดขวา คนที่มีลักษณะ DC ส่วนมากจะถนัดขวาและคนที่มียีน CC อาจจะถนัดมือซ้ายหรือไม่ก็มือขวา การเข้าคู่กันของลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้มีประชากรมนุษย์ที่ถนัดขวามากกว่าและมีส่วนน้อยซึ่งยังคงมีอยู่ที่ถนัดซ้าย

ฮือฮา!เจอคุณทวด112ปี


ชาวเมืองสองแควฮือฮาเจอ“คุณทวด”อายุยืน112ปีเผยเคล็ดไม่กินเนื้อพาสุขภาพดี
วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางสุพร เกศามูล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านใหม่สามัคคี ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ว่าพบผู้ที่น่าจะอายุยืนที่สุดในประเทศไทย จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วยนางปิยะธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกและนายประภาส คงแตง นายอำเภอเนินมะปราง พบนางพา กิตติ อายุ 112 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 183 ในสภาพร่างกายยังแข็งแรง หูตึงแต่ยังได้ยินบ้าง แต่ไม่สามารถเดินได้ โดยมีนางหนูหลี่ ขวัญเปีย อายุ 62 ปี ลูกสาวคนที่ 14 คอยดูแลอย่างใกล้ชิด นางหนูหลี่กล่าวนางพามารดาของตน มีภูมิลำเนาอยู่ในอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาได้แต่งงานกับนายอินทร์ และมีบุตรด้วยกัน 14 คน แต่ปัจจุบันมีบุตรเหลือเพียง 5 คนเท่านั้น ส่วนบิดาได้เสียชีวิตไปแล้ว ปัจจุบันเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลสำคัญของทุกปี จะมีลูก หลาน เหลน โหลน จำนวนนับร้อยคนเดินทางมาเยี่ยมนางพากันอย่างคึกคัก ส่วนที่มารดาของตนมีอายุยืนถึง 112 ปี ก็เพราะชอบกินน้ำพริก ผักต้มและปลาย่างเป็นประจำทุกวัน โดยไม่กินอาหารดิบและเนื้อวัว นอกจากนี้ยังมีอารมณ์ดีอีกด้วย ทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว.

วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไวน์แดงรักษาฟันสะอาด มีสารประกอบป้องกันแบคทีเรียไม่ให้จับเกาะ



ศาสตราจารย์เมืองมักกะโรนีพบคุณประโยชน์ใหม่ของเหล้าไวน์แดงอีกอย่างหนึ่ง การดื่มเพียงปานกลางจะช่วยชำระล้างฟันให้ ปลอดจากแบคทีเรีย หลังจากกินอาหารทุกมื้อ...ก่อนหน้านี้ เคยมีการศึกษาพบคุณประโยชน์ ของไวน์แดงสารพัดอย่าง ตั้งแต่ช่วยให้อายุยืน ลดอันตรายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด จนถึงโรคประสาท ข่าวของสำนักข่าวเอบีซี วิทยาศาสตร์กล่าวว่า ศาสตราจารย์กาเบรียลลา กัซซานี แห่งมหาวิทยาลัยปาเวีย กล่าวแจ้งว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วในเรื่องประโยชน์ของแอลกอฮอล์ในเรื่องช่วยป้องกันฟันผุ จึงได้หันมาศึกษากับไวน์แดงที่ไร้แอลกอฮอล์ดูบ้าง และได้ผลว่า ไวน์แดงที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ก็มีสรรพคุณช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้จับเกาะทำลายเคลือบฟันได้เช่นกันนักวิจัยพบว่าสารประกอบในไวน์แดงที่มีชื่อว่า "โปรอันโทไซนิดินส์" เป็นตัวช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรีย มันมีอยู่ในพืชผักผลไม้อย่างเช่น แอปเปิ้ล อบเชย โกโก้ และชาตามธรรมชาติอยู่ด้วย.

วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

สายคล้องโทรศัพท์ชุดชั้นใน
















ถ่านไฟฉาย


แบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉาย เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดพลังงานไฟฟ้าในตัวเอง เนื่องจากปฏิกิริยาเคมีที่บรรจุอยู่ภายในตัวแบตเตอรี่นั้นๆ พลังงานไฟฟ้าที่ได้คือ ไฟฟ้ากระแสตรง1. ชนิดคาร์บอน-สังกะสี ใช้กันมาตั้งแต่ปี 2443 ให้กระแสไฟฟ้าโดยปฏิกิริยาเคมีซึ่งมีสังกะสีเป็นขั้วลบ ส่วนขั้วบวกเป็นผลผสมของแมงกานีสไดออกไซด์กับวัสดุอื่นๆ เป็นถ่านไฟฉายที่มีอายุการใช้งานสั้น และให้กระแสไฟฟ้าน้อย มักจะเสื่อมสภาพได้โดยง่ายระหว่างรอการจำหน่าย 2. แบตเตอรี่ชนิดอัลคาไลน์ พัฒนาเพื่อใช้กับงานที่ต้องการกระแสไฟฟ้าสูง ถ่านไฟฉายชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานเป็น 10 เท่าของถ่านไฟฉายธรรมดา3. แบตเตอรี่ชนิดปรอทออกไซด์ แบตเตอรี่ชนิดสังกะสีกับปรอทออกไซด์ให้ระดับพลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่แบบคาร์บอน-สังกะสี และแบตเตอรี่แบบอัลคาไลน์ นอกจากนี้ ร้อยละ 80-90 ของสารต่างๆ ที่บรรจุในแบตเตอรี่ชนิดนี้ จะทำปฏิกิริยาให้พลังงานไฟฟ้าได้ตลอดอายุขัยของแบตเตอรี่ 4. แบตเตอรี่ชนิดเงินออกไซด์ มีคุณสมบัติเหมือนแบตเตอรี่ชนิดปรอทออกไซด์ แต่ทำงานในอุณหภูมิต่ำได้ดีกว่า และให้ค่าความต่างศักย์สูงถึง 1.5 โวลต์ (ปรอทออกไซด์ให้ 1.35 โวลต์) เนื่องจากมีราคาค่อนข้างแพง จึงมีผลิตเป็นแบบเม็ดกระดุมเท่านั้น 5. แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม โดยทางทฤษฎีธาตุลิเทียม มีระดับพลังงานสูงที่สุด เมื่อเทียบกับโลหะอื่นๆ ดังนั้น แบตเตอรี่ที่ใช้กระแสไฟฟ้า โดยปฏิกิริยาเคมีระหว่างขั้วคาโทดที่เป็นลิเธียม กับคาโทดอะไรก็ตามจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานที่สุด 6. แบตเตอรี่ชนิดอัดไฟซ้ำได้ (ชนิดนิเกิล-แคดเมียม) ผลิตออกมาเหมือนถ่านไฟฉายทั่วไป แต่สามารถอัดไฟใหม่ได้สูงถึง 500 ครั้งถ่านไฟฉายที่นิยมใช้กันในบ้านเรามีหลายขนาดด้วยกัน ได้แก่ D เป็นถ่านไฟฉาย ขนาดใหญ่สุด เส้นผ่าศูนย์กลาง x ความสูง คือ 33x60 ม.ม.C ที่เรียกว่า ขนาดกลาง มีขนาด 25.8x50 ม.ม.AA ขนาดเล็ก มีขนาด 13.5-14.5x51 ม.ม.AAA ขนาดเล็กจิ๋ว มีขนาด 10.5x44.5 ม.ม. AAAA ขนาดเล็กจิ๋วหลิว หาซื้อยากและมีราคาแพง มีขนาด 8.3x42.5 ม.ม. ถ่านไฟฉายชนิดพิเศษผลิตออกมาเพื่อสะดวกกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ และเก็บประจุไว้ได้นาน เช่น ถ่านไฟฉาย "เฮฟวี่ดิวตี้" (Heavy Duty) และ "ซูเปอร์เฮฟวี่ดิวตี้" (Super Heavy Duty) เซลล์ไฟฟ้าแบบนี้สร้างมาจากสารอัลคาไลน์ หรือเรียกว่าถ่านไฟฉายแบบ "อัลคาไลน์" ลักษณะจะเหมือนกับถ่านไฟฉายทั่วๆ ไป แต่อายุการใช้งานจะนานกว่าถ่านไฟฉายธรรมดา โครงสร้างคือ ตัวถังภายนอกจะเป็นสังกะสี ทำหน้าที่เป็นขั้วลบ ภายในจะมีแท่งคาร์บอนทำหน้าที่เป็นขั้วบวก โดยมีสารเคมีเพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีและก่อให้เกิดประจุไฟฟ้า มีแรงเคลื่อนไฟฟ้า 1.5 โวลต์เป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ ยังมีถ่านไฟฉายแบบใช้งานกับนาฬิกาควอตช์ กล้องถ่ายรูป เครื่องคิดเลข เกมกด ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ถ่านแบบ "กระดุม" ถ่านไฟฉายแบบนี้จะมีชนิดเมอร์คิวรี่ออกไซด์ ชนิดลิเธียม ชนิดแคดเมียม ชนิดนิเกิล-แคดเมียม เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

5 เคล็ด(ไม่)ลับ ไขกุญแจสู่สุขภาพดี จิตใจสดใส

หน้าหนาวที่เริ่มย่างกรายเข้ามา คงเป็นโอกาสดีให้เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อหนาๆ สวยๆ ออกมาใส่สักที อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มากับอากาศหนาวที่ไม่ควรประมาท คือ เรื่องของโรคภัย

นับตั้งแต่ไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่พอถึงหน้าหนาว เชื้อโรคก็จะเริ่มเพาะตัวและระบาดกันอีกระลอก ทั้งที่รอบที่ผ่านมายังขจัดกันได้ไม่เด็ดขาด แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ได้เป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไปนัก เพียงแต่เราต้องเพิ่มความใส่ใจ ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เมื่อสุขภาพแข็งแรง ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้น เพียงง่ายๆ แค่นี้ โรคต่างๆ ก็จะไม่มาถามหา วันนี้เรานำเคล็ด (ไม่) ลับดีๆ จากโครงการ “สุขภาพดี หมายเลข 5” ของเทสโก้ โลตัส มาฝาก เพื่อไขกุญแจสู่การมีร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ ห่างไกลจากโรคภัยต่างๆ และจะนำมาซึ่งร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่สดใส

1.รับประทานอาหารครบ 5 หมู่

เป็นขั้นตอนแรกที่จะนำคุณไปสู่ร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งหลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว แต่ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ แบบที่ว่าหาอะไรได้ก็คว้าไว้ก่อน เราก็มักจะได้รับประทานแต่อาหารซ้ำซาก และจังก์ฟู้ด บางคนยิ่งแล้วใหญ่ วันนี้รับประทานของเมื่อวาน พรุ่งนี้รับประทานของวันนี้ เก็บของเก่ารับประทานเรื่อยไป แล้วเมื่อไหร่จะได้รับประทานของใหม่ล่ะเนี่ย ถึงตอนนี้ลองหยุดซักนิดแล้วคิดดูซิว่า วันนี้คุณรับประทานอะไรเข้าไปบ้าง และในแต่ละมื้อได้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ตามความต้องการของร่างกายหรือไม่ หรือถ้าครบก็ต้องเลือกให้มีสัดส่วนพอเหมาะ จำง่ายๆ คือ รับประทานผักและผลไม้ในสัดส่วนที่มากที่สุดต่อมื้ออาหาร รองลงมาเป็นอาหารจำพวกแป้งและข้าวที่ให้คาร์โบไฮเดรต โปรตีนรับประทานได้แต่พอควร และท้ายที่สุดไขมันเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการน้อยและควรเลือกไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดประมาณ 8 แก้วต่อวัน เพื่อไปหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย และรักษาระดับความเข้มข้นของเลือด ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเสียใหม่ คุณจะได้ส่องกระจกเห็นคุณคนใหม่ที่มีผิวพรรณดี หน้าตาสดใส อย่าลืมนะคะ You are what you eat ค่ะ

รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com

2.ออกกำลังกายง่ายๆ 5 วันต่อสัปดาห์
การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ระบบต่างๆ ทั้งระบบเผาผลาญ ระบบไหลเวียนโลหิต หรือระบบย่อยอาหารในร่างกายทำงานดีขึ้น องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าการออกกำลังกายที่ได้ผลดีที่สุด คือการออกกำลังกายครั้งละ 30 นาที โดยทำเป็นประจำ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ บางคนได้ยินเช่นนี้ ถึงกับร้องโอดครวญแถมส่ายหน้าหนี แต่คำว่า “ออกกำลังกาย” ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องไปวิ่ง ว่ายน้ำ ตีเทนนิส หรือยกน้ำหนักทุกวัน คุณสามารถปรับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวที่คุณชอบทำเป็นการออกกำลังกายได้ เช่น ถ้าคุณเป็นสาวออฟฟิศ รักในการช็อปปิ้งเพื่อคลายเครียด การเดินช็อปปิ้งต่อเนื่อง 30 นาที จะช่วยให้สาวๆ ใช้พลังงานไปถึง 100 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว หรือถ้าชอบเต้นแอโรบิก ก็เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน เพราะเพียง 30 นาที หายไปถึง 170 กิโลแคลอรีแน่ะ

3.มีกิจกรรมสันทนาการบ้าง

เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เคร่งเครียดกับการทำงานมาทั้งอาทิตย์แล้ว หากจะหากิจกรรมทำในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์บ้าง คงจะดีไม่น้อย หาความสุขใส่ตัวเพื่อเป็นของขวัญให้กับคนเก่งอย่างตัวเอง ไม่ว่าจะไปดูหนัง ฟังเพลง สังสรรค์กับเพื่อนฝูง ไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ตามแต่ใจชอบ เพื่อเป็นการเพิ่มรอยยิ้มและความสุขให้กับตัวเอง สลัดความคิดจากงานกองโต เพราะจากการศึกษาวิจัยคนจำนวน 1.2 หมื่นคน ในสวีเดนพบว่า คนที่หาความสุขใส่ตัวด้วยวิธีต่างๆ ตามข้างต้น มีอายุยืนกว่าคนที่ปราศจากกิจกรรมรื่นเริงดังกล่าวถึง 36% รับทราบแล้วก็เริ่มคิดได้เลยว่าอาทิตย์นี้จะไปชิลที่ไหนดี

รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com4.มองโลกในแง่ดี คิดบวก
ในสังคมที่มีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นรอบตัว การเมืองร้อนแรง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพื่อนร่วมงานที่คอยจ้องจับผิด ส่งผลกระทบให้หลายคนเกิดความเครียด หรือบั่นทอนความสุขลงบ้างไม่มากก็น้อย การมองโลกในแง่ดี และสร้างสรรค์ จึงน่าจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้น โดยถือเป็นการสร้างความสุขจากใจตนเอง ด้วยการคิดดี คิดบวกและมีสติ ทำให้จิตใจมั่นคง ผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง เพื่อสร้างความสุขให้แก่ตนเองและคนรอบข้าง บางทีหากปล่อยวางซะ แล้วมองโลกในมุมใหม่ๆ คุณอาจพบว่าความสุขไม่ได้อยู่ไกลเลย

5.หัวเราะทุกวัน เพื่อจิตใจที่แจ่มใส
การหัวเราะวันละนิด นอกจากจะทำให้จิตแจ่มใส สุขภาพจิตได้ผ่อนคลายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายด้วย เพราะการหัวเราะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายดีขึ้น แถมยังกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และแทบไม่น่าเชื่อ คนที่ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ ระบบย่อยไม่ดีเนื่องมาจากความเครียดก็จะมีอาการน้อยลงหากได้หัวเราะ เพราะว่าทุกครั้งที่เกิดความเครียด กล้ามเนื้อทุกส่วนจะตึง แต่เมื่อมีการหัวเราะกล้ามเนื้อที่เคยตึงจะผ่อนคลายทำให้ร่างกายเกิดความสมดุล มีความสุข เพราะสารแห่งความสุขหรือ “เอนดอร์ฟิน” จะหลั่งออกมา การหันมาใส่ใจสุขภาพด้วยวิธีการหัวเราะ ดูเหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ การหัวเราะจึงเป็นกุญแจสู่การมีสุขภาพดี นอกจากการหัวเราะจะช่วยคลายเครียด ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแล้ว เมื่อคุณยิ้มหรือหัวเราะ คนรอบข้างก็จะมีความสุข เป็นการเพิ่มเสน่ห์ในตัวคุณอีกด้วย


วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คุณฝันเป็นภาษาอังกฤษหรือเปล่า?

คราวหน้าถ้าคุณได้ยินว่าใครบางคน dead to the world ก็อย่าตกใจไป ! นั่นหมายความว่าเขาแค่นอนหลับสนิทเท่านั้นเอง ภาษาอังกฤษมีศัพท์เกี่ยวกับการนอนหลับและการฝันอยู่มากมาย ลองมาดูตัวอย่างสำนวนต่อไปนี้ที่เราหวังว่ามันคงจะไม่ put you to sleep(ทำให้คุณเบื่อจนผล็อยหลับไป)!

Sweet dreamsหมาย ความว่าฝันถึงลูกอมขนมเค้กใช่มั้ย? เปล่าหรอก ! สำนวนนี้ใช้เมื่อกล่าวราตรีสวัสดิ์ขอให้คนนั้นนอนหลับฝันดี ปกติจะใช้กับคนที่เป็นที่รักเมื่อเขาหรือเธอลาเข้านอน เช่น"Sweet dreams, my love!"

Reoccurring nightmare แน่นอนว่าความฝันอย่างนี้ไม่ดีแน่ ! Nightmaresหมายถึงฝันร้ายที่น่ากลัว ถ้าคุณฝันร้ายเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกว่าคุณมีreoccurring nightmare

Hit the hay ถ้ามีใครบอกคุณว่าได้เวลาhit the hayแล้ว นั่นไม่ได้หมายถึงได้เวลาที่คุณต้องทำงานเก็บกวดยุ้งข้าวในฟาร์มหรอก ที่มาก็คือชาวตะวันตกเคยใช้ฟูกที่ยัดด้วยฟาง(hay) - ดังนั้นประโยคนี้จึงหมายถึงได้เวลาเข้านอนนั่นเอง

Heavy/light sleeper คนที่เป็น heavy sleepers หมายถึงคนรูปร่างสูงใหญ่ แล้วคนที่เป็น light sleepers จะตัวเล็กผอมบางอย่างนั้นใช่หรือเปล่า? ไม่ใช่ ! Heavy sleepers หมายถึงคนที่หลับลึกแล้วไม่ค่อยรู้สึกตัวตื่นได้ง่ายๆ ส่วนพวก light sleepers นั้นตรงกันข้ามก็คือคนที่รู้สึกตัวตื่นทันทีแม้มีเสียงรบกวนเพียงเล็กน้อยก็ตาม

Sleep like a log ก็ลองนึกถึงท่อนซุงเอาก็แล้วกันที่ทั้งหนักและยากที่จะเคลื่อนย้าย ดังนั้นถ้าใคร sleeping like a log ก็หมายถึงเขาหลับลึก หลับสนิทเป็นตาย โดยที่ไม่ tossing and turning (นอนกระสับกระส่าย พลิกไปพลิกมา) คุณอาจนำไปใช้อย่างประโยคต่อไปนี้คือ "I'm so tired from all that exercise that I'll sleep like a log tonight!"

Sleep in ถ้ามีใครบอกคุณว่าเขาอยาก sleep in คุณก็อย่าโทรฯไปกวนหรือไปหาเขาแต่เช้าก็แล้วกัน สำนวนนี้จะถูกใช้เมื่อคนนั้นต้องการนอนยาวแล้วค่อยลุกตอนสายๆ อย่างเช่น "I sleep in every weekend and wake up around noon."

Power nap คุณเคยรู้สึกเหนื่อยแทบขาดใจราวๆ เที่ยงวันหรือเปล่า? ถ้าใช่ล่ะก็ power nap อาจช่วยคุณได้ ! บางครั้งการนอนพักหลายชั่วโมงอาจทำให้คุณรู้สึกง่วงและเหนื่อยมากขึ้นไปอีก แต่การนอนพักช่วงสั้นๆ หรือ power nap ที่ไม่เกิน 30 นาทีช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น

Insomnia บางคนสามารถหลับได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นที่ไหนหรือเวลาใด ส่วนบางคนกลับตาสว่างไม่ยอมหลับเอาง่ายๆ ทั้งที่ง่วงแทบตาย คนที่หลับยากอย่างนี้เรียกว่ามี insomnia และคำที่ใช้เรียกคนเหล่านี้คือ insomniac

Doze off บางครั้งถ้าเราเหนื่อยมากๆ เราก็อาจผล็อยหลับไปซักงีบโดยไม่รู้ตัว นี่เรียกว่า dozing off บางทีคุณอาจจะเคย doze off ขณะที่นั่งดูทีวี หรืออ่านตำราเรียน หรือแม้แต่ในชั่วโมงเรียนหรือชั่วโมงทำงานอยู่ก็เป็นได้!

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ตรวจพบเชื้อหวัด 2009 ในแมวเป็นครั้งแรก!


สหรัฐตรวจพบไวรัสไข้หวัดใหญ่2009ใน แมวเป็นครั้งแรก ชัดเจนว่าได้รับเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช1เอ็น1 จากเจ้าของ

สัตวแพทย์ในรัฐไอโอวาของสหรัฐตรวจพบไวรัสไข้หวัดใหญ่2009ในแมวเป็นครั้งแรก แมวตัวดังกล่าวเป็นเพศผู้มีอายุ 13 ปี มีความชัดเจนว่าได้รับเชื้อไวรัสชนิดเอ เอช1เอ็น1 จากเจ้าของ เพราะพบว่ามีสมาชิก2ใน3คนของครอบครัวนี้เคยติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมาก่อน

ทีมงานสัตวแพทย์และนักวิชาการ ของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา ยืนยันผลการตรวจหลังจากติดตามประวัติของครอบครัวนี้และเฝ้าสังเกตอาการเป็น เวลา 5 วัน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สัตวแพทย์ให้ยาปฏิชีวนะแก่แมวตัวนี้แล้วพบว่าอาการดีขึ้นมาก

รศ.เบรต สปอนเซลเลอร์ ผู้เชี่ยวชาญจุลชีววิทยาเกี่ยวกับสัตว์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงจำนวนแมวที่ติดเชื้อและอันตรายจากเชื้อที่ติดจากแมวไป สู่มนุษย์ แต่ดูเหมือนว่าจะมีอันตรายไม่มากนัก เขาเชื่อว่าจะมีการนำแมวมาตรวจมากขึ้นเพื่อหาการติดเชื้อ

หน่วยงานสาธารณสุขของรัฐไอโอวาเตือน ประชาชนที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่าสามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อไปยังมนุษย์และสัตว์บางชนิดได้ โดยที่สัตว์เลี้ยงจะมีความใกล้ชิดกับคนป่วยและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มาก

ก่อนหน้านี้สัตวแพทย์วินิจฉัยพบว่าแมวสามารถติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 แต่ในกรณีแมวอายุ 13 ปี ตัวนี้เป็นครั้งแรกที่ตรวจพบไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และบ่งบอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ของการแพร่ระบาด

วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศส


การสอบวัดระดับภาษาฝรั่งเศสในประเทศไทยจัดสอบโดยสมาคมฝรั่งเศส กรุงเทพฯ การสอบแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยการสอบประเภทที่นักเรียนในระดับมัธยมปลายส่วนใหญ่ในประเทศไทยนิยมสอบกัน คือ การสอบ DELF ซึ่งเป็น ประกาศนียบัตรความรู้ทางด้านภาษาฝรั่งเศสขั้นพื้นฐาน ซึ่งบางโรงเรียนอาจมีการจัดสอบเป็นกลุ่มเฉพาะสำหรับนักเรียน โรงเรียนของตน นอกจากนี้ยังมีการทดสอบความรู้ภาษาฝรั่งเศส (TCF) และการสอบประเมินความรู้ทางภาษาฝรั่งเศส (TEF) อีกด้วย โดยการสอบวัดระดับเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในประเทศฝรั่งเศสนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ผลการสอบ DELF และ TCF ส่วนการสอบ TEF นั้นเป็นการสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อหรือทำงานในประเทศแคนาดา

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาหารเจที่ชอบกินกันนั้นบอกอะไรได้บ้าง?


อยู่ในช่วง “เทศกาลกินเจ” เพื่อรักษาศีล จิตสงบ เกิดสิริมงคลเพิ่มพลังชีวิต ปัจจุบันอาหารเจมีมากมายกว่าแต่ก่อน การชื่นชอบอาหารเจบางชนิด สามารถทายใจได้ ลองมาดูกัน

ต้มจับฉ่าย : ผู้ที่ชื่นชอบต้มจับฉ่าย แสดงว่ามีความสามารถหลายด้าน สติปัญญาดี ขยันรอบรู้และหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ คิดแล้วทำด้วยตัวเอง เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายความสำเร็จของชีวิตที่มั่นคง ภายนอกมองดูสุขุมเยือกเย็น เอื่อยเฉื่อย แต่งกายแลดูสบายๆ แต่ภายในใจลึกๆ แล้วโหยหาความรักความอบอุ่น รักการดูแลสุขภาพ เปิดเผย เชื่อมั่น เป็นตัวของตัวเอง มีมานะพยายาม ขยันหมั่นเพียร มีเสน่ห์ดึงดูดใจ ชอบการประนีประนอม มีมนุษยสัมพันธ์ดี รู้จักเลือกใช้งานคนอื่นได้ดี และก็ได้รับความนิยมยกย่องจากสังคม เป็นที่ปรึกษาที่ดีของผู้อื่นอีกด้วย

มะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว : ผู้ที่ชื่นชอบมะเขือยาวผัดเต้าเจี้ยว แสดงว่า มีความสุขุม ชอบเก็บตัว อาจจะทำอะไรแปลกๆ ทุ่มเทให้การงาน เสียสละ มีความเมตตากรุณาต่อผู้อื่นที่อ่อนด้อยกว่าตน มีความกล้าอย่างมีเหตุผล รับผิดชอบ มีสติปัญญาประสาทสัมผัสดีไวต่อความรู้สึก มักจะชอบทำอะไรให้สำเร็จไปโดยไม่ชอบให้คั่งค้าง จริงจังตรงไปตรงมาแบบขวานผ่าซาก อาจจะซ่อนอารมณ์ความรู้สึกภายใน อาจจะชอบเก็บตัวและดูเป็นคนเก็บกดไปก็ได้ ชอบฟังเพลงหรือเฮฮาแบบแปลกๆ ก็ได้ อาจพอใจกับการอยู่เงียบๆ คนเดียว คิดมาก ชอบวิตกกังวล อารมณ์อ่อนไหวง่ายแต่อาจจะซ่อนอยู่ภายใน

ผัดหมี่ซั่ว : ผู้ที่ชื่นชอบผัดหมี่ซั่ว แสดงว่า มี แรงบันดาลใจ รักศรัทธา เชื่อมั่น มีศิลปะเสียงเพลงอยู่ในหัวใจ มีอุดมการณ์อย่างสร้างสรรค์ บากบั่น อดทน ตรงไปตรงมา รักความถูกต้อง ไม่ชอบอยู่ใต้บังคับบัญชาใคร สามารถแก้ไขปัญหาด้วยความนุ่มนวล อาจชอบทำบางอย่างแปลกแหวกแนวไม่ซ้ำใคร จนทำให้คนรอบข้างทึ่งไปตามๆ กัน อาจเข้าไปวุ่นวายในชีวิตคนอื่นในลักษณะของคนเจ้าระเบียบ มีกฎเกณฑ์ จุกจิกจู้จี้ไปบ้างก็เพราะหวังดี อาจมีอารมณ์อ่อนไหว วิตกกังวล ใจร้อน โกรธง่ายและหายเร็ว หรือเก็บความรู้สึกอยู่คนเดียว ในเรื่องความรัก ก็อย่าหวั่นไหวกับสังคมภายนอกให้มากนัก

ห่านพะโล้เจ : ผู้ที่ชื่นชอบพะโล้เจ แสดงว่า คุณ มีจิตนาการ มีเสน่ห์ อ่อนหวานนุ่มนวล รักความสวยงาม โรแมนติก รสนิยมดี มีดนตรีอยู่ในหัวใจ น่ารัก น่าสนใจ มีคำพูดที่จูงใจคนเก่ง บางครั้งอาจดื้อรั้นไปบ้าง แต่สามารถเอาตัวรอดพ้นจากปัญหาที่วุ่นวายได้ดี มีกำลังใจมุ่งมั่นให้ตนประสบชัยชนะอย่างสมปรารถนา และมีความภูมิใจในคุณค่าของตน ชอบการแสวงหาความรู้สิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องลึกซึ้งทางปรัชญาหรือลี้ลับ ส่วนเรื่องความรักคุณกลัวการโดดเดี่ยวและกลัวการขาดความรักความอบอุ่นมาก จะอ่อนไหวมากและพร้อมที่จะระเบิดเมื่อเจอคนถูกใจ


วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เสียงร้องของสัตว์ในภาษาต่างๆ

ตารางที่ ๑ : เสียงร้องของสัตว์บางชนิดในภาษาต่างๆ
ภาษา / สัตว์
แมว
หนู
วัว
เป็ด
ม้า

ไทย

อังกฤษ

ฝรั่งเศส

เยอรมัน

รัสเซีย

สวีเดน

จีนกลาง

ญี่ปุ่น


เวียตนาม

ฮินดี

เบงกอล

เมี้ยวๆ, เหมียว

meow [B]

miaou [B]

miau [B]

myau [B]

mjan mjan [A]

miao miao [B]

nyaa nyaa [B]


meo-meo [B]

mya:u mya:u [B]

meu-meu [B]

อี๊ดๆ

Eek [A]

-

piep piep [A,B]

pi-pi-pi [A]

pip [B]

zi zi [B]

chuuchuu [B]

chu-chu [B]

chit-chit [B]

chu:-chu: [B]

chuu-chuu [B]

มอๆ

moo [B]

meuh [B]

mmuuh [B]

muu [B]

muu [B]

mu mu [B]

moo [B]


-

mo:-mo: [B]

hamba [B]

ก้าบๆ

quack quack [B]

coin coin [B]

quack, quack [B]

krya-krya [B]

kvack [B]

gua gua [B]

gaagaa [B]


quck-quak [B]

-

gack-gack [B]

ฮี้ๆ

wehee [A]

hiiiii [A]

wihiie [A]

-

-

-

hihiiiiin [A]


-

-

-

วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

กลิ่นมะนาว ช่วยคลาย "เครียด"


อโรมาเทอราปี (Aromatherapy) เป็นศาสตร์ของการใช้ "กลิ่นระเหย" มาช่วยดูแลสุขภาพ ในรูปของน้ำมันระเหยที่สกัดออกมาอย่างเข้มข้น ใช้ได้ทั้งเพื่อความงาม ในรูปของเครื่องสำอาง ใช้เพื่อสุขภาพ และใช้เพื่อพิธีกรรม โดยเฉพาะเพื่อความงาม ใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูเซลล์ผิว การขับสารพิษ การระงับเชื้อ ฯลฯ



เราสามารถใช้เพื่อรักษาความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณ ซ่อมแซมรอยแผล แต้มสิว บำรุงผม หรือการลดริ้วรอยความเหี่ยวย่น โดยใช้ในรูปแบบของโลชั่น น้ำมันนวด สบู่อาบน้ำ หรือแชมพู การใช้เพื่อสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติของการคลายกล้ามเนื้อ ลดความเจ็บปวด การฆ่าเชื้อ ฯลฯ





เราสามารถนำน้ำมันหอมระเหยมาใช้ลดอาการหรือช่วยบำรุงสุขภาพเราได้ ทั้งทางกายและทางใจ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากความเครียด ซึ่งยาเคมีสังเคราะห์มีผลข้างเคียงสูง ขณะที่น้ำมันหอมระเหยเป็นสารธรรมชาติ มีการตกค้างและผลข้างเคียงที่น้อยกว่าหรือไม่มีเลย ทำและใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาลทีเดียว





ยิ่ง "มะนาว" นักวิทยาศาสตร์และการแพทย์ศึกษาแล้วพบว่า กลิ่นของมะนาว โดยเฉพาะจากเปลือก ช่วยลดความเครียดได้ เป็นการใช้กลิ่นหอมทดแทนการใช้ยา น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวนี้ มีฤทธิ์ต่อระบบต่างๆ ผ่านทางผิวหนัง ช่วยระงับเชื้อจากบาดแผล แมลงกัดต่อย ฯลฯ รวมถึงกลิ่นมะนาวยังช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท


การกินอาหารตามสูตรชีวจิต : อาหารบำรุงสมองและระบบประสาท

พอจะแบ่งออกได้เป็น ยา วิตามิน กับอาหารธรรมชาติ ผมอยากจะขอพูดถึงอาหารธรรมชาติก่อน เพราะอาหารกลุ่มนี้ จะมีคุณค่าสูงทางโภชนาการ ทั้งมียาและวิตามิน อยู่ในอาหารเหล่านี้ด้วย ข้อสำคัญ เป็นอาหารที่หาได้ง่ายในท้องตลาด และราคาก็ไม่แพงมากเกินไป อาหารธรรมชาติที่ประกอบด้วยยาและวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงสมอง และระบบประสาท ได้แก่

Folic Acid มีอยู่ในผักใบเขียวจัดทุกชนิด แครอต ตับ และไข่แดง แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่วแดง - ดำ - เหลือง ข้าวซ้อมมือ และข้าวสาลีไม่ขัดขาว

Niacin ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ปลา ไข่ ถั่วลิสงคั่ว อะโวคาโด อินทผลัม มะเดื่อ ไก่ ( เนื้อขาว )

Zinc จมูกข้าว เมล็ดฟักทอง บริวเวอร์ยีสต์ ไข่ นม มัสตาร์ดผง

Potassuim ส้ม ส้มโอ แคนตาลูป มะเขือเทศ แห้ว ผักใบเขียว สะระแหน่ เมล็ดทานตะวัน กล้วยน้ำว้า มันเทศ มันฝรั่ง

Kelp คือต้นไม้ทะเล เกลือแร่ที่ต้องการจาก Kelp คือไอโอดีน สาหร่ายทุกชนิดก็ใช้ได้

Tryptophan คอตเตจชีส นม เนื้อสัตว์ ปลา กล้วย อินทผลัม ถั่วลิสง

Phenylalanine ถั่วเหลืองและผลิตผลจากถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ หอย กุ้ง คอตเตจชีส นม ถั่ว อัลมอนด์ ถั่วลิสง งา เมล็ดฟักทอง

B 1 ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ข้าวสาลีไม่ขัดขาว ข้าวโอต ถั่วลิสง เนื้อหมู ผัก นม

B 6 ข้าวซ้อมมือ ข้าวสาลีไม่ขัดขาว จมูกข้าว ตับ แคนตาลูป กะหล่ำปลี โมลาส นม ไข่ เนื้อ

B 12 ตับ เนื้อสัตว์ ไข่ นม เนย

DNA / RNA จมูกข้าว รำข้าว ผักโขม หน่อไม่ฝรั่ง เห็ดทุกชนิด ปลา ตับไก่ ข้าวโอต หัวหอม

จะเห็นว่าอาหารบางอย่าง มีทั้งตัวยา วิตามินและแร่ธาตุครบ เช่น ข้าวซ้อมมือ นอกจากจะมีสารอาหารครบหมู่แล้ว ยังมีทั้ง Folic Acid , Niacin , Zinc , B 1 , B 6 , และ DNA / RNA และแร่ธาตุอื่นๆเกือบจะครบถ้วน

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Cupcake





Cupcake


A cupcake (the common US, Canadian, South African and Australian term) or fairy cake (the common British term), is a small cake designed to serve one person, frequently baked in a small, thin paper cup. As with larger cakes, frosting and other cake decorations, such as sprinkles, are common on cupcakes.

History

In the early 19th century, there were two different uses for the name "cup cake" or "cupcake". In previous centuries, before muffin tins were widely available, the cakes were often baked in individual pottery cups, ramekins, or molds and took their name from the cups they were baked in. This is the use of the name that has persisted, and the name of "cupcake" is now given to any small cake that is about the size of a teacup. The name "fairy cake" is a fanciful description of its size, which would be appropriate for a party of diminutive fairies to share.

The other kind of "cup cake" referred to a cake whose ingredients were measured by volume, using a standard-sized cup, instead of being weighed. Recipes whose ingredients were measured using a standard-sized cup could also be baked in cups; however, they were more commonly baked in tins as layers or loaves. In later years, when the use of volume measurements was firmly established in home kitchens, these recipes became known as 1234 cakes or quarter cakes, so called because they are made up of four ingredients in equal ratios; butter, sugar, eggs and flour.[1][2] They are plain yellow cakes, somewhat less rich and less expensive than pound cake, due to the reduced proportion of butter. The names of these two major classes of cakes were intended to signal the method to the baker; "cup cake" uses a volume measurement, and "pound cake" uses a weight measurement.


วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552

6 สิ่งสุดพิเศษที่ต้องมอบให้กับคนรู้ใจ


ถ้าใกล้ถึง “วันเกิดของคนรู้ใจ”ก็คงจะอยากหาของขวัญสุดพิเศษมอบให้กับเขาใช่ไหมจ๊ะ ว่าแต่เพื่อน ๆ คิดจะมอบอะไรให้กับเขาคนนั้นล่ะจ๊ะ ถ้าคิดไม่ออกเข้ามาทางนี้เลยจ้ะ เพราะมีของขวัญสุดพิเศษที่สามารถสื่อความหมายดีๆ ที่รับรองว่าคนรู้ใจของเพื่อน ๆ เห็นแล้วจะต้องยิ้มแก้มปริแน่นอนจ้ะ งั้นไปเริ่มต้นที่ของขวัญชิ้นแรกกันเลย.......

ต้นไม้ >> เวลาที่เห็นต้นไม้ต้นเล็กๆ ก็จะรีบเข้าไปรดน้ำ พรวนดิน และรอคอยให้มันเจริญเติบโตเป็นต้นไม้ที่สูงใหญ่ ซึ่งมันก็เหมือนกับความรักถ้าไม่คอยดูแลเอาใจใส่คนสองคนก็ไม่สามารถที่ก้าวเดินไปพร้อมกันได้


เสื้อ >> แขนเสื้อมี 2 แขนใช่ไหมจ๊ะ เวลาสวมใส่เราก็ต้องใส่ทั้ง 2 แขน ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ จะให้เสื้อกับคนรู้ใจแล้วล่ะก็ มันจะสื่อความหมายว่า ความรักของเราจะอยู่กันเหมือนกับแขนเสื้อ


เครื่องสาน >>
กว่าที่จะได้เครื่องสานออกมาหนึ่งชิ้นนั้น ผู้ทำจะต้องมีเวลาให้กับการสานค่อนข้างจะมาก เพราะมันจะต้องค่อยๆ สานไปทีละนิด ซึ่งของขวัญชิ้นนี้ก็เปรียบเหมือนกับการสานสายใยความรักของคนสองคนให้ยั่งยืนไม่ขาดตอน


กระเป๋าสตางค์ >> เคล็ดลับการเรียกเงินเรียกทองให้เข้ามาอยู่ในกระเป๋านั้น ง่ายดายมากเพียงแค่ใส่เกลือลงไปในกระเป๋าสตางค์นิดหน่อย นอกจากนี้เกลือยังเป็นตัวช่วยปัดเป่าสิ่งโชคร้ายให้ออกไปได้อีกด้วย


ต่างหู >> เครื่องประดับชนิดนี้มี 2 ข้างเป็นคู่กันใช่ไหมจ๊ะ ซึ่งความหมายของสิ่งนี้ที่มอบให้คนรู้ใจนั้นก็คือ เราจะอยู่กันตลอดไป เหมือนกับต่างหูที่ต้องอยู่กับคู่ของมัน


กำไล >> ไม่ว่าเครื่องประดับชนิดนี้จะทำมาจากไม้ , เงิน หรือพลาสติก แต่มันก็แสดงถึงกำไรชีวิต ที่ทำให้ผู้สวมใส่เต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ปรารถนา

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

Lay's


Lay's is the brand name for a number of potato chip (crisps in British English) varieties as well as the name of the company that founded the chip brand in 1938. Lay's chips are marketed as a division of Frito-Lay, a company owned by PepsiCo Inc. since 1965. Other brands in the Frito-Lay group include Fritos, Doritos, Ruffles, Cheetos and Rold Gold pretzels

History

In 1932 salesman Herman W. Lay opened a snack food operation in Nashville, Tennessee and, in 1938, he purchased the Atlanta, Georgia potato chip manufacturer "Barrett Food Company," renaming it "H.W. Lay & Company." Lay criss-crossed the southern United States selling the product from the trunk of his car. In 1942, Lay introduced the first continuous potato processor, resulting in the first large-scale production of the product.

The business shortened its name to "the Lay's Company" in 1944 and became the first snack food manufacturer to purchase television commercials, with Bert Lahr as a celebrity spokesman. His signature line, "so crisp you can hear the freshness," became the chips' first slogan along with "de-Lay-sious!" As the popular commercials aired during the 1950s, Lay's went national in its marketing and was soon supplying product throughout the United States.

In 1961, the Frito Company founded by Elmer Doolin and Lay's merged to form Frito-Lay Inc., a snack food giant with combined sales of over $127 million annually, the largest of any manufacturer. Shortly thereafter, Lays introduced its best-known slogan "betcha you can't eat just one." Sales of the chips became international, with marketing assisted by a number of celebrity endorsers.

In 1965, Frito-Lay merged with the Pepsi-Cola Company to form PepsiCo, Inc. and a barbecue version of the chips appeared on grocery shelves. A new formulation of chip was introduced in 1991 that was crisper and kept fresher longer. Shortly thereafter, the company introduced the "Wavy Lays" products to grocer shelves. In the mid to late 1990s, Lay's modified its barbecue chips formula and rebranded it as "K.C. Masterpiece," named after a popular sauce, and introduced a lower calorie baked version and a variety that was completely fat-free (Lay's WOW chips containing the fat substitute olestra).

In the 2000s, kettle cooked brands appeared as did a processed version called Lay's Stax that was intended to compete with Pringles, and the company began introducing a variety of additional flavour variations.

Frito-Lay products currently control 55% of the United States salty foods marketplace

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

สาเหตุการเกิดรังแค และวิธีแก้ง่ายๆ



สาเหตุของการเกิดรังแค และวิธีขจัดรังแคอย่างง่าย ๆ

1. น้ำอุ่น เพิ่มปริมาณรังแค : การสระผมด้วยน้ำอุ่นจะไปละลายชั้นไขมันบนหนังศีรษะออก ส่งผลให้หนังศีรษะแห้งและลอกเป็นขุย เกิดรังแคในที่สุด จึงควรเลิกสระผมด้วยน้ำอุ่น


2. แดดจัดจ้า : ตัวการทำลายผม ทำให้ผมชี้ฟู ขาดน้ำหนัก และไม่เงางาม แสงแดดจะเข้าไปทำลายโปรตีนในเส้นผม และทำให้ผมหยาบ จึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดด และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูที่ช่วยบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก


3. สิงห์อมควัน ผมเสียไม่รู้ตัว : เพราะควันบุหรี่จะเกาะบนเส้นผมทำให้ผมขาดความมันเงา และส่งผลให้สภาพศีรษะแห้งกว่าปกติ


4. นวดบำบัด ขจัดรังแค : ทุกครั้งที่สระผม ควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ จะช่วยผ่อนคลายความเครียด และขจัดเซลล์หนังศีรษะที่ตายให้หลุดลอกได้ง่ายขึ้น


5. ควรเลือกแชมพูที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ และควรล้างแชมพูให้สะอาดทุกครั้งหลังสระผมเพื่อขจัดสารเคมีที่ตกค้าง


6. หลังสระผมควรใช้ผ้าขนหนูที่แห้งสะอาดซับหนังศีรษะและเส้นผม ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าที่เปียกชื้นและไม่ใช้ผ้าร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการเกาที่ทำให้หนังศีรษะเกิดแผลอักเสบ


เพียงเท่านี้ ปัญหารังแคที่มีอยู่ก็จะหายไป อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันดูได้.

เบนโตะ ข้าวกล่องญี่ปุ่น
















วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

Maillot de bain


Le maillot de bain ou le costume de bain au Québec est un vêtement destiné à la pratique de la natation, à la baignade au bord de l'eau, ou plus généralement, à toute activité se déroulant l'été ou dans l'eau.
Historique

Dans l'Antiquité romaine, les bains publics sont très prisés. Au Moyen Âge, les eaux thermales et les bains de mer sont jugés malsains pour la santé et leurs bienfaits ne sont redécouverts qu'au XVIIIe siècle. On se baignait alors nu ou en chemise.

À la fin du XIXe siècle, les femmes se baignent en corset et pantalon bouffant.

Au début des bains de mer au XXe siècle, le costume de bain est codifié par le corps médical et les hygiénistes qui préconisent un costume bouffant en laine ce qui gagne en confort et un bonnet sur la tête.


Vers 1900, la femme porte une robe légère qui s'arrête au genou sur une culotte bouffante de la même étoffe et l'homme s'habille d'un costume qui s'arrête aux mollets et à manches longues car il est inconvenant de montrer le torse.

Dans les années 1920, Coco Chanel lance la mode du teint hâlé (bronzage), ce qui permet de dénuder bras, jambes et épaules.

En 1946 apparait le bikini qui ne s'impose vraiment que dans les années 1960. Puis jusqu'à la fin des années 1970, la ceinture du maillot descend sous la taille et le bikini devient monokini. Les tendances suivantes sont une culotte de plus en plus mince et la disparition du haut.

Short de bain.

Dans les années 1980, l'influence du surf favorise le port du caleçon chez les hommes

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552

กล่องใส่จี้สร้อยคอสวยๆ
















เรื่องสิว สิว กับวัยแรกรุ่น

แม้ใครๆ จะพร่ำบอกว่า เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ในความรู้สึกของหนุ่มกวาง หนุ่มน้อยวัยใสวัยมัธยมต้น การมีสิว...มันเหมือนปัญหาชีวิตอันยิ่งใหญ่ที่กวางจำต้องแบกรับไว้บนหน้า จนแทบจะไม่อยากไปโรงเรียนกวดวิชากันเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วเรื่องสิวก็เป็นเรื่องธรรมชาติจริงๆ นั่นล่ะ เพราะถ้าหนุ่มสาววัยใสเข้าใจและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิว (ไปสักระยะ)
เพราะสิวเป็นสัญญาณของการแตกเนื้อหนุ่มสาว ซึ่งส่วนมากมักจะพบว่าหนุ่มน้อยสาวน้อยที่บ้านเราจะเริ่มมีสิวกันตั้งแต่อายุประมาณ 12-13 ปี และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะจากสถิติทางการแพทย์พบว่าวัยรุ่นประมาณ 80% เคยเป็นสิวมาก่อน สาเหตุของสิวเนื่องจากเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ฮอร์โมนเพศในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศแอนโดรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น
เมื่อรูขุมขนบริเวณใบหน้า บริเวณอก และแผ่นหลังอุดตัน ไขมันที่ถูกสร้างจากต่อมไขมันระบายออกไม่ทัน ก็จะกลายเป็นอาหารอย่างดีแก่เชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า และทำให้เกิดการอักเสบตามมา แต่ถ้าหนุ่มน้อยสาวน้อยต่างรู้จักการดูแลตัวเอง ก็อาจลดโอกาสการเกิดสิวได้เหมือนกัน แต่หากเป็นสิวไปแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะคะ เพราะถ้าเราเกิดความกังวลเดินผ่านใครหรือใครเดินผ่านก็มักจะเอามือปกปิด หรือเผลอตัวไปสัมผัสบริเวณนั้นตลอดเวลา กลับยิ่งกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบเป็นหนอง การดูแลจะยุ่งยากขึ้นกว่าเดิม วิธีง่ายๆ อยากจะแนะนำไว้ดังนี้
1.รักษาความสะอาดโดยล้างหน้าวันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ เนื่องจากสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกของฝุ่นผงในอากาศ เวลาล้างหน้าอย่าถูแรง พยายามหลีกเลี่ยงการใช้สครับล้างหน้าเพราะระคายผิว และหลีกเหลี่ยงการใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าทั่วไปที่มีฤทธิ์เป็นด่าง
2.หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสารเคมี ที่อาจจะทำให้เกิดสิว
3.หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ
4.อย่าบีบหรือแกะสิวเพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็น ซึ่งรักษาให้หายได้ยากกว่าการรักษาสิว
5.อย่าปล่อยให้ผมยาวรุงรังปรกหน้า อย่าปล่อยให้ผมมัน และควรงดใช้น้ำมันใส่ผม เจล สเปรย์
6.พยายามอย่าให้เครียด อย่าให้เกิดอารมณ์หงุดหงิดหรือกังวล และพยายามอย่านอนดึก
7.กรณีผิวหน้ามัน ควรซับมันออกจากผิวหน้าด้วยกระดาษซับความมันบนใบหน้า

ดัดฟันแฟชั่น อันตรายถึงตาย !!


แม้สาเหตุการเสียชีวิตของนักเรียนหญิงชั้น ม.5 จ.ขอนแก่น จะเกี่ยวข้องกับการจัด หรือดัดฟันแฟชั่นหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยก็เป็นอุทาหรณ์ให้กับวัยรุ่นทั้งหลายได้ตระหนักถึงอันตรายของความสวยงาม โก้เก๋ ที่อาจต้องแลกด้วยชีวิต
ทพ.ดร.ธงชัย วชิรโรจน์ไพศาล หัวหน้าภาควิชาทันตกรรมชุมชน คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปกติการจัดฟันจะเป็นการแก้ไขความผิดปกติของการเรียงตัวของฟัน เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันบนล่างไม่สบกัน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการบดเคี้ยวอาหาร สุขภาพของฟัน รวมทั้งเนื้อเยื่อรอบ ๆ ฟัน และยังช่วยปรับ ให้รูปลักษณะใบหน้า และการยิ้มดูดีขึ้น ผู้ให้การรักษาจะต้องเป็นทันตแพทย์เท่านั้น
การจัดฟันแฟชั่น ไม่ใช่การรักษาทางทันตกรรม แต่เป็นการพยายามใส่เครื่องมือที่เลียนแบบการจัดฟันแบบติดแน่นที่ทันตแพทย์ใช้ในการรักษาผู้ป่วย มีจุดประสงค์เพื่อความสวยงาม โก้เก๋ ทันสมัย ผู้ที่ให้บริการไม่ใช่ทันตแพทย์ ทำให้เกิดผลเสียต่าง ๆ ตามมา
ในปัจจุบันจัดฟันแฟชั่น อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ ลวดร้อยลูกปัด เป็นการใช้ลวดเส้นเล็ก ๆ ร้อยลูกปัดสีต่าง ๆ มีวางจำหน่ายในตลาดนัดและแหล่งชุมชนต่าง ๆ ราคาเส้นละ 50-120 บาท เด็กและวัยรุ่นนิยมซื้อมาใส่เอง
จัดฟันแฟชั่นแบบติดแน่น เป็นการเลียนแบบการจัดฟันของทันตแพทย์ให้เหมือนมากขึ้น โดยจะมีการติดเครื่องมือ “แบ๊กเกต” เป็นโลหะรูปสี่เหลี่ยมที่มีร่องใส่ลวดจัดฟันและมีส่วนยื่นออกมาสำหรับคล้องยาง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 800-1,200 บาท สามารถเลือกสีของยาง รูปร่างของยาง เช่น รูป ดอกไม้ มิกกี้เม้าส์
จัดฟันแฟชั่นแบบถอดได้ เป็นการใช้เครื่องมือคงสภาพฟัน หรือ “รีเทนเนอร์” ที่เหมือนกับทันตแพทย์ใช้ มีลักษณะเป็นแผ่น พลาสติกปิดอยู่ที่เพดาน หรือข้างลิ้น มีลวดคอยบังคับฟันให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ มีการดัดแปลง เพิ่มแบ๊กเกตให้ติดอยู่บนลวด ขั้นตอนการทำจะต้องมีการพิมพ์ฟัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 800-1,300 บาทต่อชิ้น สามารถเลือกสี ลายของแผ่น พลาสติก และลวดได้
อันตรายของการจัดฟันแฟชั่น มีดังนี้
อันตรายจากขั้นตอนการทำ เครื่องมือที่ใช้ เช่น ถาดพิมพ์ฟันใช้แล้วไม่ได้ล้าง หรือล้างแต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อ ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อโรคที่มาจากน้ำลายของผู้ใช้บริการคนก่อน ผู้ทำไม่ได้สวมถุงมือ อาจติดโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คอตีบ โปลิโอ
อันตรายจากวัสดุ ลวดจัดฟันแฟชั่นที่ใช้คุณ ภาพต่ำ มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว พลวง ซิลิเนียม โครเมียม และสารหนู หากสะสมในร่างกายมาก ๆ จะเป็นอันตรายต่อไต ทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ ของเซลล์ตาย อาจทำให้เกิดมะเร็งได้ การใช้ลวดที่เป็นสี เมื่อใส่ไว้ในปากสักระยะหนึ่ง มีการสัมผัสอาหาร ของเย็น ของร้อน แล้วสีจางลง ส่วนประกอบของสีจะเข้าสู่ร่างกาย ผ่านเข้ากระเพาะอาหาร และดูดซึมไปสะสมไว้ในร่างกาย เป็นการสะสมสารพิษไว้ในร่างกาย
อันตรายต่อฟันและเนื้อเยื่อในช่องปาก ในขั้นตอนการทำ จะมีการใช้หัวกรอ กรอเอาเคลือบฟันที่ดีออกไป รวมทั้งใช้กรดกัดฟัน ซึ่งจะทำให้เคลื่อนฟันบางลง ทำให้ความแข็งแรงของฟันลดลง ทำให้เสียวฟันได้ง่าย
การปรับแต่งลวดโดยผู้ที่ไม่มีความรู้จะทำให้เกิดแรงกดไปที่ตัวฟัน และฟันเคลื่อนไปจากเดิม ทำให้มีอาการปวดฟันมากอาจทำให้ฟันซี่นั้นกลายเป็นฟันตาย รากฟันละลาย อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งไป เครื่องมืออาจหลุดลงคอ หรือ หลอดลม ทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้การใส่เครื่องมือจัดฟันแฟชั่นมักทำให้เกิดการบาดกระพุ้งแก้ม หรือเนื้อเยื่อในช่องปากกลาย เป็นแผล เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเนื้อเยื่อในช่องปาก อีกทั้งเครื่องมือที่ใส่ในปาก จะขัดขวางการแปรงฟันและทำความสะอาดฟัน อาจทำให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ บวมแดง มีกลิ่นปาก
ท้ายนี้ขอเตือนวัยรุ่นทั้งหลายว่า หากฟันไม่ได้มีปัญหาก็ไม่ควรไปจัดหรือดัดฟันแฟชั่น เพราะนอกจากจะเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว อาจได้รับอันตรายจากวัสดุจัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน ถึงขั้นเสียชีวิตได้.

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปรับนิสัย ขับถ่ายให้เป็นเวลา


ใครที่ละเลยการขับถ่ายในเวลาเช้า หันมาฟังทางนี้เลย เพราะการที่คุณไม่ขับถ่ายให้เป็นเวลานั้น อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้นะคะ

ซึ่งช่วงเวลาที่สามารถขับถ่ายได้ดีที่สุด คือ ตี 5 - 7 โมงเช้า เพราะเป็นเวลาการทำงานของลำไส้ใหญ่ค่ะ จึงเหมาะที่จะขับถ่ายมากที่สุด


ถ้าเวลาล่วงมาจนถึง 9 โมงเช้าแล้วล่ะก็ เวลานี้จะเป็นเวลาทำงานของกระเพาะอาหาร ถ้าเราไม่ทานข้าวเช้า ของเสียจากลำไส้ใหญ่ที่ไม่ขับถ่ายออกจะถูกบีบตัวผ่านลำไส้เล็ก กลับมาถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารอีกครั้งหนึ่ง


โดยอุจจาระเก่าจะมีแก๊สที่เสียแล้ว เกิดจากการบูดเน่า โดยอุณหภูมิของร่างกายที่มีความร้อน 37 องศาตลอดเวลา ไม่เหมือนกับตู้เย็นที่เก็บได้นานกว่า เพราะฉะนั้นแก๊สพิษเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด เลือดจึงไม่สะอาด ผลที่ตามมาตั้งแต่ก่อนเที่ยงถึงบ่าย เราอาจรู้สึกง่วงนอน เพราะเลือดที่ไม่สะอาด เมื่อไหลไปเลี้ยงหัวใจก็จะทำให้อ่อนล้าไม่สดชื่น นอกจากนี้การที่เลือดไม่สะอาดไปเลี้ยงปอด ปอดก็จะขับของเสียออกทางผิวหนังและลมหายใจทำให้เกิดกลิ่นตัว กลิ่นปากโดยไม่รู้ตัว


การที่เราไม่ค่อยขับถ่ายตอนเช้าหลายวัน บางครั้งอาจทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวและเกิดอาการท้องอืดได้ ที่น่ากลัว ใครที่ละเลยการขับถ่ายในช่วงเช้าเป็นเวลาหลายๆ ปี เมื่อแก่ตัวความจำก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติอีกด้วย


วิธีแก้ สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยถ่ายในช่วงเช้า ให้กินข้าวเช้าทุกวัน ระหว่างเวลา 07.00-09.00 น. แต่ถ้ากินข้าวเช้าแล้วยังไม่ค่อยขับถ่าย ก็ให้กินขมิ้นชันเป็นประจำเพื่อบริหารลำไส้ใหญ่ไปในตัว


รู้อย่างนี้แล้ว ควรจะปรับนิสัยซะใหม่ เข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา เพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ ...

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การดื่มนม เป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้เกิดสิว


ใครที่ชอบดื่มนมเป็นประจำ รู้หรือไม่ว่า การดื่มนมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาบอกกัน...

วิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ กล่าวว่า ด็กหนุ่มสาวทั้งหลายที่มีสิวขึ้นบนใบหน้าว่า ให้ลดปริมาณการดื่มนมให้น้อยลง เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองแล้ว พบว่า ถ้าอยากจะห่างสิวควรจะเลิกกินมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลต แต่ในการทดลองใหม่นี้ได้แสดงว่าวัยรุ่นที่ดื่มนมประจำวันละไม่น้อยกว่า 476 ซีซี ล้วนแต่เป็นสิวกันครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่าหรือไม่ดื่มเลย

นมมีความเกี่ยวพันกับการเป็นสิวอย่างชัดเจน รายงานผลการทดลอง ซึ่งเสนอในวารสารวิชาการ “แพทย์โรคผิวหนัง” แห่งอเมริกัน ยังกล่าวอีกว่า ฮอร์โมนการเจริญเติบโต และฮอร์โมนเพศในน้ำนมวัว อาจจะเป็นเครื่องกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้

ใครที่กำลังเป็นสิว และไม่แน่ใจในสาเหตุการเกิดสิว ลองลดปริมาณการดื่มนมดูนะคะ


วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Chat


Le chat domestique (Felis silvestris catus) est un mammifère carnivore de la famille des félidés. Il est l’un des principaux animaux de compagnie et compte aujourd’hui une cinquantaine de races différentes reconnues par les instances de certification.

Essentiellement territorial, le chat est un prédateur de petites proies comme les rongeurs. Les chats ont diverses vocalisations dont les ronronnements et les miaulements, bien qu’ils communiquent principalement par des positions faciales et corporelles et des phéromones.

Selon les résultats de travaux menés en 2006 et 2007, le chat domestique est une sous-espèce du Chat sauvage (Felis silvestris) dont il a vraisemblablement divergé il y a 130 000 ans. Les premières domestications auraient eu lieu il y a 8 000 à 10 000 ans au Néolithique dans le Croissant fertile, époque correspondant aux débuts de la culture de céréales et à l’engrangement de réserves susceptibles d’être attaquées par des rongeurs, le chat devenant alors pour l’homme un auxiliaire utile se prêtant à la domestication.

Tout d’abord vénéré par les Égyptiens, il fut diabolisé en Europe au Moyen Âge et ne retrouva ses lettres de noblesse qu’au XVIIIe siècle. En Asie, le chat reste synonyme de chance.

Ce félin a laissé son empreinte dans la culture populaire et artistique, tant au travers d’expressions populaires que de représentations diverses au sein de la littérature, de la peinture ou encore de la musique.

Le chat domestique mâle est couramment appelé un « chat » tandis que la femelle est une « chatte » et le jeune un « chaton ». Le mot chat vient du bas-latin cattus qui d’après le Littré dans son édition de 1878, provient du verbe cattare, qui signifie guetter, ce félin étant alors considéré comme un chasseur qui guette sa proie. Cette dernière interprétation porte à controverse, au vu des termes utilisés dans les langues afro-asiatiques.

On désigne aussi plus familièrement le chat par minet et la chatte par minette. Ce terme, attesté dès 1560, provient de mine, nom populaire du chat en gallo-roman. Ce mot est à l’origine de l’expression dès potron-minet, qui signifie « de bon matin ». D’après le Littré, il s’agirait d’une déformation de paître au minet, c’est-à-dire du moment où le chat, qui se lève tôt, va chercher son paître : sa pâture, sa nourriture… Cette explication doit sans doute à la pudeur de cet auteur du XIXe siècle : selon Claude Duneton, cette expression provient de poitron-jacquet, jacquet désignant un écureuil (animal matinal marchant la queue levée) et poitron désignant le postérieur. Dès potron-minet signifie donc : « à l’heure où l’on voit le derrière du chat ». Quant au « minet » ou à la « minette » qui « fait des mines », lorsque ce terme est appliqué à l’être humain, c’est un jeune homme ou une jeune fille qui s’efforce de plaire et se préoccupe beaucoup de son apparence..

Un chat mâle non castré est un « matou », terme à l’origine incertaine qui viendrait peut-être d’une dérivation de mite comme dans chattemite. Le chat est aussi nommé familièrement « mistigri », mot-valise composé du préfixe miste, signifiant adroit, et de gris, la couleur.

En argot, un chat s’appelle un « greffier ». Deux explications s’opposent, qui peut-être n’en font qu’une : d’une part, le jeu de mot sur griffe est évident ; d’autre part, la fourrure de certains chats noirs comporte une sorte de plastron blanc sur le poitrail, et celui-ci évoque le rabat blanc que l’on voyait sur la robe noire des greffiers jusqu’au XIXe siècle.

รักกัน